วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ความสัมพันธ์เศรษฐกิจเยอรมัน-ไทย

 ข้อมูลโดย สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ

ความสัมพันธ์เศรษฐกิจเยอรมัน-ไทย

 

ความสัมพันธ์เศรษฐกิจเยอรมัน-ไทย
     เยอรมนีและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างแน่นแฟ้นและรุ่งเรืองมายาวนาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศนับย้อนไปถึง “สนธิสัญญาพระราชไมตรี การค้าขายและการเดินเรือ” เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1862 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศเมื่อ 150 ปีก่อน ปัจจุบัน ความสัมพันธ์นี้ปรากฏในรูปความสำเร็จของบริษัทเยอรมันกว่า 500 แห่งในประเทศไทย
     บริษัทเยอรมันในประเทศไทยได้รับความเชื่อถืออย่างสูง บริษัทเหล่านี้ไม่ได้เพียงเป็นตรารับรองคุณภาพ “Made in Germany” แต่ยังเป็นเป็นตัวแทนของนวัตกรรม คุณภาพและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงบริษัทเยอรมันทีเป็น “ผู้เล่นระดับโลก” เท่านั้นที่เข้ามาตัวเเทนประเทศซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสี่ของโลก เท่านั้น แต่ยังพรั่งพร้อมด้วยบริษัทขนาดกลางชั้นนำระดับโลกมากมายที่เป็นหัวใจของ เศรษฐกิจเยอรมัน
โฮมเพ จของฝ่ายเศรษฐกิจนำเสนอรายงานล่าสุดเกี่ยวกับกิจกรรมและการเยือนประเทศไทย ของบุคคลสำคัญจากเยอรมัน รวมไปถึงภาพรวมเกี่ยวกับหน้าที่ของเรา รวมทั้งบทความและลิงค์ต่างๆ

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
31 ตุลาคม 2013

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษา เครือข่ายวิชาการไร้พรมแดน

ข้อมูลโดย สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ

ศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษา

 เครือข่ายวิชาการไร้พรมแดน

Professor Michael Werner und Nicolas Escach vom CIERA, Paris  
ขยายภาพ (© Jan Greune)  

     ในฐานะสถาบันหลักเพื่อการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับประเทศเยอรมนีและ ยุโรป และเป็นกลไกขับเคลื่อนการสร้างนักวิชาการที่ล้ำหน้า ศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษา 15 แห่งใน 11 ประเทศได้ส่งเสริมการศึกษาวิจัยในหัวข้อที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ปัจจุบันโดยไม่จำกัดสาขา วัตถุประสงค์หลักของศูนย์เยอรมันฯ คือการสร้างผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่เกี่ยวกับประเทศเยอรมนีและยุโรปที่อุทิศตน เพื่อความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างนานาประเทศ โดยการผสมผสานความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การเมืองและการสาธารณะของประเทศตนเองในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเยอรมนีและ ยุโรป ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธ์สารณรัฐเยอรมนีรับหน้าที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนหลัก ผ่านองค์กรความร่วมมือแลกเปลี่ยนทางวิชาการ (DAAD) ในกรอบนโยบายต่างประเทศ

Nicolas Escach, Sylwester Zagulski und Nofar Sheffi (v.l.) im Wissenschaftszentrum Berlin 
 ขยายภาพ (© Jan Greune)  

     สิบเอ็ดประเทศ สิบห้าเมืองมหาวิทยาลัยชั้นนำจากปารีสถึงโตเกียว รวมพลังสร้างเครือข่ายศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษา โดยได้รับการสนับสนุนหลักจาก มหาวิทยาลัยในแต่ละประเทศซึ่งเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ เยอรมนียังให้การสนับสนุนทางการเงินในช่วงสิบปีแรกของการก่อตั้งศูนย์ฯ จากงบประมาณด้านวัฒนธรรมและการศึกษาของกระทรวงการต่างประเทศ โดยศูนย์เยอรมันฯ แต่ละแห่งจะมีความชำนาญ ลักษณะเฉพาะทางวิชาการและหัวข้อหลักในการวิจัยแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความชำนาญที่หลากหลาย ศูนย์เยอรมันฯ นี้ยังคงความเป็นเอกภาพผ่านทางภาษาเยอรมัน ซึ่งเป็นภาษาทางการและลักษณะร่วมกันหลายประการ โดยลักษณะร่วมที่สำคัญที่สุดคือ วัตถุประสงค์ของศูนย์ ที่ต้องการสร้างนักวิชาการรุ่นใหม่ให้มีความรู้เกี่ยวกับประเทศเยอรมนีและ ยุโรปเป็นอย่างดี เป็นการรับประกันความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างเยอรมนีและประเทศพันธมิตร ศูนย์เยอรมันฯ มีหน้าที่อุทิศตนเพื่อการค้นคว้าและศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก โดยมุ่งเน้นหัวข้อวิจัยที่ทันสมัย สามารถเชื่อมโยงกับรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์รวมทั้งภาษาและวรรณคดีเยอรมันเข้าด้วยกัน มุมมองที่เปิดกว้างไม่จำกัดสาขานี้ ทำให้การทำงานของศูนย์ฯ มีความสนุกสนาน น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ

     รูปแบบสหวิชาเช่นนี้ ดึงดูดนักวิชาการรุ่นใหม่มากมาย ศาสตราจารย์เบียงกา คูห์เนลผู้อำนวยการศูนย์เยอรมันศึกษา จากมหาวิทยาลัยฮิบรู กรุงเยรูซาเล็มเผยว่า “นักศึกษาให้ความสนใจกับสาขานี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่คนที่ไม่เคยข้องเกี่ยวกับประเทศเยอรมนีมาก่อนเลย ยุโรปมีความสำคัญต่ออิสราเอลมาก ดังนั้น ศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษาจึงสำคัญสำหรับเรา เนื่องจากวิชาการเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น” ศาสตราจารย์คริสทอฟ รุคนีวิชนักประวัติศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์วิลลี-บรันด์ (WBZ) ในกรุงวรอตซวาฟก็ต้องการให้ศูนย์ฯ “มีบทบาทในการสานสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและโปแลนด์ เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะไม่ทำงานกันเฉพาะบนโต๊ะทำงาน” นอกจากการค้นคว้าและศึกษาแล้ว ศูนย์วิลลี-บรันด์ในโปแลนด์ ยังให้ความสำคัญต่อการถ่ายทอดวิชาการและการให้คำปรึกษาทางการเมืองอีกด้วย

Professor Bianca Kühnel und Nofar Sheffi vom Center for German Studies, Jerusalem  
ขยายภาพ (© Jan Greune)  

     ศูนย์ CIERA-Centre interdisciplinaire d’etudes et de recherches sur l’Allemagne ในกรุงปารีสมีบทบาทสำคัญเป็นพิเศษในฐานะศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยและศูนย์ วิจัยสิบแห่งของฝรั่งเศส ด้วยหลักสูตรปริญญาเอกสหศาสตร์ที่ล้ำหน้า ทำให้ CIERA พัฒนาตัวเองเป็นกลไกทางรัฐศาสตร์ที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส ศาสตราจารย์มิชาเอล แวร์เนอร์ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ยังทึ่งกับศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญเยอรมันที่ CIERA สร้างขึ้น โดยกล่าวว่า “การแบ่งแยกรัฐชาติต่างๆ ไม่มีความหมายสำหรับคนรุ่นใหม่เหล่านี้อีกต่อไป พวกเขาสามารถพูดได้สองหรือสามภาษา พัฒนาอัตลักษณ์ของตนเป็นชาวยุโรปและสามารถรับบทบาทที่สำคัญในกระบวนการถ่าย ทอดวิชาการทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี” กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขาคือคนรุ่นใหม่ ผู้ทำหน้าที่ในการเผยแพร่ความรู้ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของผู้ริเริ่มก่อตั้งศูนย์เยอรมันฯ เหล่านี้นั่นเอง
 บทความ: ยาเน็ท ชายาน/สำนักพิมพ์ Societäts

สถิติและข้อมูล
     ปัจจุบัน DAAD เป็นผู้ให้การสนับสนุนศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษา 15 แห่งทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991มีศูนย์และโครงการสหศาสตร์เกี่ยวกับเยอรมันและยุโรปศึกษาที่ได้รับการ สนับสนุนรวมทั้งสิ้น 18แห่ง// ศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษาในสหรัฐอเมริกาแห่งแรก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1991// ศูนย์เยอรมันและยุโรปศึกษาแห่งใหม่ล่าสุดทั้งสองแห่งในอิสราเอลก่อตั้งขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 2007// เยอรมนีให้การสนับสนุนศูนย์ฯ เหล่านี้สำหรับช่วงสิบปีแรกของการก่อตั้งเป็นจำนวนเงินกว่า 250,000ยูโรต่อปี

Blick in die DAAD-Konferenz „Deutschland und Europa: Grenzen und Grenzgänge(r)“  
ขยายภาพ (© Jan Greune)

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/  

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
30 ตุลาคม 2013

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การศึกษาในประเทศเยอรมนี

ข้อมูลโดย สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ

การศึกษาในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

Humboldt Universität  
ขยายภาพ (© Auswärtiges Amt)  

     การศึกษาในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีของนักเรียนหลายรุ่นต่อหลายรุ่น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ทั้งโดยส่วนตัวและในการประกอบอาชีพ สำหรับนักเรียนจากทั่วโลก โดยเฉพาะเยาวชนจากประเทศด้อยพัฒนากว่าเยอรมนีจากทั่วโลก ได้เลือกแนวทางนี้ และในทุกวันนี้เยาวชนดังกล่าวได้เป็นชนชั้นผู้นำในด้านเศรษฐกิจ การเมืองและวิชาการในประเทศของตน
     ประเทศเยอรมนีพิจารณาถึงแนวโน้มที่จะเป็นตลาดด้านการศึกษาในระดับโลก เยอรมนีได้ปรับปรุงข้อเสนอในด้านการศึกษาในระดับสูงขึ้นให้มีความทันสมัยและ ทำให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ เพื่อที่จะทำให้ตลาดด้านการศึกษาของเยอรมนีเป็นที่ดึงดูดมากขึ้น การศึกษาในหลายสาขาวิชาได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญมากที่จะดึงดูดผู้ที่จบการศึกษาขั้นปริญญาตรีและ ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท หรือสูงกว่า ให้มาศึกษาต่อที่เยอรมนี
     การจบการศึกษาตามแบบดั้งเดิมของเยอรมนี แม้ว่าเนื้อหาการศึกษาจะได้มาตรฐาน แต่เยอรมนียังคงต้องแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ อีก เยอรมนีจึงเริ่มนำระบบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทตามแบบนานาชาติมาใช้อย่างเร่งด่วน
     ความพยายามเหล่านี้ถือว่าประสบผลสำเร็จ โดยจำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศเยอรมนีเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งประเทศไทยมีเยาวชนจำนวนมากขึ้น ๆ ตัดสินใจไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนี เพื่อพัฒนาตนเอง จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การเพิ่มขึ้นในแต่ละปีประมาณ 25 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะสาขาที่ดึงดูดคนไทยให้ไปเรียนคือ สาขาวิศวกรรมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งสาขาแพทยศาสตร์

 สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"

29 ตุลาคม 2013

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วัฒนธรรมเยอรมัน

 ข้อมูลจาก สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ

อะไรคือ "วัฒนธรรมเยอรมัน?"

Goethe-Schiller Denkmal in Weimar  
ขยายภาพ (© picture-alliance/ akg)  

     อะไรคือ "วัฒนธรรมเยอรมัน?" เป็นคำถาม หนึ่ง ซึ่งไม่อาจจะตอบได้อย่างรวดเร็ว องค์ประกอบที่มีสัมพันธ์กันกับคำถามนี้อย่างไม่ต้องสงสัยคือ ภาษาเยอรมันนั่นเอง ก่อนที่ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจะเกิดขึ้นเป็นประเทศ “อย่างถูกต้อง” วัฒนธรรม เยอรมันได้ถูกนิยามว่า คือ ภาษาเยอรมันที่ใช้ร่วมกัน ปัจจุบันถือเป็นหน้าที่ของสถาบันเกอเธ่ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 128 แห่งทั่วโลก ในการส่งเสริมด้านภาษาเยอรมันและวัฒนธรรมเยอรมัน (สถาบันเกอเธ่ กรุงเทพฯ 18/1 ซ. เกอเธ่ สาทร 1 กรุงเทพฯ 10120)
    ประเทศแห่งนักกวีและนักคิด” คำ นิยามนี้ยังถูกใช้ทั่วไปในปัจจุบัน นักเขียนและนักปรัชญาที่สำคัญ ๆ เช่น โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่, ฟรีดริช ชิลเลอร์, อิมมานูเอล คานท์ หรือฟรีดริช นิทซ์เชอร์ ล้วนแต่เป็นชาวเยอรมันทั้งสิ้น วัฒนธรรมเยอรมันยังสามารถรวมไปถึงนักแต่งเพลงคลาสสิคหลายท่าน อาทิ ลุดวิค แวน บีโทเฟ่น หรือโยฮันน์ เซบาสเตียน บาค อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นต้องเน้นย้ำคือ วัฒนธรรมในประเทศเยอรมนีไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ในปัจจุบันนี้ ตลาดเพลงเยอรมันถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และมีอิทธิพลอย่างมากในตลาดดนตรีป๊อบและดนตรีร๊อค รวม ไปถึงงานแสดงหนังสือนานาชาติที่กรุงฟรังเฟิร์ต หรืองานแสดงภาพยนตร์นานาชาติที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงงานเทศกาลนานาชาติที่สำคัญ
     สิ่งดึงดูดที่สำคัญก็คือ กรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมป๊อบ กรุงเบอร์ลินซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ซึ่งนับวันจะได้รับความนิยมชมชอบจากเยาวชนทั่วโลก

Im ausverkauften Stadion 

     รวมทั้งกีฬา ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเยอรมัน กีฬาฟุตบอลมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภายหลังจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี พ.ศ. 2549 นอกจากนี้สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันยังเป็นสมาคมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดและประสบความ สำเร็จมากที่สุดในระดับโลก โดยมีสมาชิกมากกว่า 6 ล้านคนจากสมาคม 170,000 สมาคม โดยเป็นการรวมตัวกันของสมาชิกตั้งแต่ผู้สูงอายุมือสมัครเล่นไปจนถึงนักกีฬา มืออาชีพ นอกจากกีฬาฟุตบอลแล้ว กีฬาประเภทอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น กีฬาแฮนด์บอล กีฬาถีบจักรยาน กีฬาฤดูหนาว
     องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ประกาศให้สถานที่ของเยอรมนี 30 แห่งเป็นมรดกโลก เช่น โดมแห่งเมืองอาเค่น และลิเมส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ในสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่เป็นมรดกโลก ยังสะท้อนให้เห็นถึงศิลปะในยุคต่าง ๆ อาทิ ศิลปะโรมัน ศิลปะโกธิค ศิลปะบาร๊อค ภาพวัฒนธรรมของเยอรมนียิ่งแผ่ขยายเพิ่มขึ้นด้วยทัศนคติเก่า ๆ ที่ว่าผู้มาเยือนเยอรมนีจะต้องไปเยือนปราสาทนอยชวานชไตน์ หรือโรเทนบวร์ก ออบ เดอร์ เทาเบอร์

Museumsinsel Berlin  
ขยายภาพ (© dpa/pa)  

     สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจด้านวัฒนธรรมของประเทศเยอรมนี ซึ่งไม่ต้องอายใครคือ พิพิธภัณฑ์จำนวนมากมาย ส่วนต่าง ๆ และหอศิลป์ วัฒนธรรมเยอรมันเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ “การอ้างชื่อผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก” หรือ การพูดถึงแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นเท่านั้น หากแต่วัฒนธรรมเยอรมันหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งทำให้ชีวิตงดงามขึ้น และมีคุณค่ามากขึ้น และเป็นสิ่งที่เกื้อกูลสังคมให้ดีขึ้น

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
28 ตุลาคม 2013

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตัวเลขภาษาเยอรมัน

 ตัวเลขภาษาเยอรมัน
 
Wie alt sind sie? (วี อลาวท์ ซิน ซี?)
คุณอายุเท่าไร?
Ich bin (ตัวเลข) jahre alt. (อิกค์ บิน ... ยาเฮอ อลาวท์)
ฉันอายุ....ปี
Wie spät ist es? (วี สปีท อิสท์ เอส?)
เวลากี่โมง?
...Uhr (อัวร์)
...นาฬิกา
 

0 = null (นุล)
1 = eins (ไอนส์)
2 = zwei (สไวย์)
3 = drei (ดราย)
4 = vier (เฟียร์)
5 = fünf (ฟุ้น)
6 = sechs (เซ็กค์)
7 = sieben (ซีเบ็น)
8 = acht (อาคท์)
9 = neun (นอยน์)
10 = zehn (เซน)
11 = elf (เอลฟ์)
12 = zwölf (สโวลฟ์)
13 = dreizehn (ไดรเซน)
14 = vierzehn (เฟียเซน)
15 = fünfzehn (ฟุ้นเซน)
16 = sechzehn (เซ็คเซน)
17 = siebzehn (ซีปเซน)
18 = achtzehn (อาคเซน)
19 = neunzehn (นอยเซน)
20 = zwanzig (ซวานซิก)
21 = einundzwanzig (ไอนอุนซวานซิก)
22 = zweiundzwanzig (สไวอุนซวานซิก)
23 = dreiundzwanzig (ไดรอุนซวานซิก)
24 = vierundzwanzig (เฟียอุนดฺซวานซิก)
25 = fünfundzwanzig (ฟุ้นอุนซวานซิก)
26 = sechsundzwanzig (เซ็คอุนซวานซิก)
27 = siebenundzwanzig (ซีปอุนซวานซิก)
28 = achtundzwanzig (อาคอุนซวานซิก)
29 = neunundzwanzig (นอยอุนซวานซิก)
30 = dreißig (ไดรซิก)
40 = vierzig (เฟียซิก)
50 = fünfzig (ฟุนซิก)
60 = sechzig (เซ็คซิก)
70 = siebzig (ซีปซิก)
80 = achtzig (อาคซิก)
90 = neunzig (นอยซิก)
100 = hundert (ฮุนเดรท)
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/ 
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
27 ตุลาคม 2013

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บทสนทนาเบื้องต้นภาษาเยอรมัน

 บทสนทนาเบื้องต้นภาษาเยอรมัน 
 
Guten Morgen (กูเทน มอร์เกิน)           = สวัสดีตอนเช้า
Guten Tag (กูเทน ทากค์)                    = สวัสดีตอนบ่าย
Guten Abend (กูเทน อาเบนด์)             = สวัสดีตอนเย็น
Gute Nacht (กูเทอ นากค์)                   = ราตรีสวัสดิ์
Auf Wiedersehen (อัฟ วีเดอร์เซน)       = ลาก่อน
Danke (ดังเคอ)                                   = ขอบคุณ
Danke Schön (ดังเคอ เชิน)                  = ขอบคุณมาก
Bitte (บิทเทอ)                                     = ได้โปรด
Bitte Schön (บิทเทอ เชิน)                    = ไม่เป็นไร
 
Ich heiße .... (อิกค์ ไฮเซอ....)                 = ฉันชื่อว่า....
Mein name ist .... (มาย นาเมอ อิสท์....)  = ชื่อของฉันคือ....
Wie heißen sie? (วี ไฮเซ็น ซี?)               = คุณชื่ออะไร

Wie geht es ihnen? (วี เก็ท เอส อีเน็น?)  = คุณสบายดีไหม?
Gut / Es geht (กุท / เอส เก็ท)                = ดี
Sehr gut (เซร์ กุท)                                 = ดีมาก
Schlecht / Nicht gut (ชะเล็คท์ / นิกค์ กุท)                       = ไม่ดี , แย่
Schön, Sie kennen zu lernen. (เชิน ซี เค็นเน็น ซู เลร์เน็น) = ยินดีที่ได้รู้จัก
Es freut mich (เอส ฟรวยท์ มิกค์)             = ด้วยความยินดี
Bis spater / Bald (บิส สปาเทอร์ / บาล์ด) = แล้วเจอกัน
Entschuldigen (เอนทฺ ชุลดิกุ่ง)                = ขอโทษ *กรณีขออนุญาต เช่น ขอผ่านทาง
Es tut mir lied (เอส ทุท เมียร์ ลายด์)       = ขอโทษ *กรณีเสียใจที่ทำผิด

 
 http://www.papiton.de/Bilder/Detail/cartolini-magnet-8190-012a.jpg
Woher kommen sie? (โวเฮอร์ โคมเมิน ซี?)
คุณมาจากไหน?
Ich komme aus Thailand. (อิกค์ โคมเมอ เอาส์ ไทลัน)
ฉันมาจากประเทศไทย
Wo wohnen sie? (โว โวเน็น ซี?)
คุณอยู่ที่ไหน?
Ich wohne in Bangkok. (อิกค์ โวเนอ อิน บังกอก)
ฉันอยู่ในกรุงเทพฯ
Wohin gehen sie? (โวฮิน เกเฮ็น ซี)
คุณจะไปไหน?
Ich gehe nach Hause. (อิกค์ เกเฮอ นากค์ เฮาเซอ)
ฉันจะกลับบ้าน
Viel Glück (เฟียล กลุก)
โชคดี
 
Sprechen sie deutsch? (สเปร็คเช็น ซี ด๊อยช์)
คุณพูดภาษาเยอรมันได้ไหม?
Ich spreche deutsch. (อิกค์ สเปร็คเชอ ดอยช์)
ฉันพูดภาษาเยอรมันได้
Ich spreche kein deutsch (อิกค์ สเปร็คเชอ คายน์ ดอยช์)
ฉันพูดภาษาเยอรมันไม่ได้
Ja oder nein (ยา โอเดอร์ ไนน์)
ใช่หรือไม่ใช่
Weiß sie das? (ไวส์ ซี ดาส)
คุณรู้ไหม?
Ich weiß. (อิกค์ ไวส์)
ฉันรู้
Ich weiß nicht. (อิกค์ ไวส์ นิกค์)
ฉันไม่รู้
Verstehen Sie? (แฟร์สเทเฮ็น ซี)
คุณเข้าใจไหม?
Ich verstehe. (อิกค์ แฟร์สเทเฮอ)
ฉันเข้าใจ
Ich verstehe nicht. (อิกค์ แฟร์สเทเฮอ นิกค์)
ฉันไม่เข้าใจ
Was sagen Sie dazu im deutsch? (วาส ซาเก็น ซี ดาซู เอ็ม ด๊อยช์)
ภาษาเยอรมันเขาพูดว่าอย่างไร?
Ach so (อักค์ โส)
เอาจริงเด่ะ
 
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/  
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
26 ตุลาคม 2013

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การ์ตูน Bleach กับภาษาเยอรมัน

Bleach (เทพมรณะ) 
การ์ตูนญี่ปุ่นอีกเรื่องที่มีการใช้ภาษาเยอรมัน

คุโบะ ไทเท คนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้จะแบ่งตัวละครออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.ยมทูต ตัวละครกลุ่มนี้จะใช้ชื่อและท่าไม้ตายเป็น "ภาษาญี่ปุ่น"
2.อารันการ์ (Arrancar) ตัวละครกลุ่มนี้จะใช้
ชื่อและท่าไม้ตายเป็น "ภาษาสเปน" 
3.ควินซี่ (Quincy) ตัวละครกลุ่มนี้จะใช้ชื่อและท่าไม้ตายเป็น "ภาษาเยอรมัน" 
โดยส่วนใหญ่แต่งชุดทหารเหมือนพวกนาซีเยอรมัน (ฮิตเลอร์) เช่น

 

Ishida Uryuu (เพื่อนพระเอก แต่ล่าสุด...) มีท่าไม้ตายเป็นภาษาเยอรมันดังนี้
Heilig Pfeil (ไฮลิก ไฟอิล) = ลูกศรศักดิ์สิทธิ์
Licht Regen (ลิชท์ เครเกิน) = สายฝนแห่งแสง
Seele schneider (เซเลอ ชไนดาร์) = กริชแห่งจิตวิญญาณ




Juha bach (ผู้นำ Quincy) นำมาจากชื่อ Johann Sebastian Bach (โยฮัน เซบาสเตียน บาค) นักแต่งดนตรีคลาสสิคชาวเยอรมัน เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม 
Vanden Reich (วันเดิน ไฮค์)    = อาณาจักรที่มองไม่เห็น และเรียกกลุ่มทหารของตัวเองว่า 
Stern Ritter (ชเทิร์น ฮิทเทอร์) = อิศวินแห่งดาว


 สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
25 ตุลาคม 2013

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ชื่อตัวละครภาษาเยอรมันของ Attack on Titan

    

     ถ้าใครเคยติดตามการ์ตูนเรื่อง "ผ่าพิภพไททัน" (Attack on Titan) มาบ้าง น่าจะพอจำชื่อตัวละครในเรื่องได้พอสมควร ความจริงแล้วชื่อตัวละครในการ์ตูนเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาเยอรมัน อย่างเช่น

 

1.Elen Jäger ตัวเอกของเรื่อง ได้เข้าร่วมในหน่วยลาดตระเวน "เอเลน" เป็นชื่อของนักบุญคนหนึ่งในศาสนาคริสต์ ส่วนนามสกุลภาษาเยอรมันอ่านว่า "ยีการ์" เเปลว่า "นักล่า"

 
 
2.Mikasa Ackermann ตัวเอกหญิง พี่น้องบุญธรรมของเอเลน ชื่อเป็นภาษาญีุ่่ปุ่น แปลว่า "การตัดสินใจ" นามสกุลอ่านว่า "อัคคาร์มัน" ภาษาเยอรมันแปลว่า "คนสวน"
 

 

3.Armin Alert เพื่อนสนิทของเอเลน ชื่อว่าว่า "อาร์มิน" ภาษาเยอรมันแปลว่า "ทหาร" ส่วนนามสกุล "อาเลียท" แปลว่า "การเตือนภัย"

 

4.Reiner Braun ทหารฝึกหัดรุ่นเดียวกับเอเลน แต่ความจริงแล้ว... "ไครเนอร์" เป็นชื่อดั้งเดิมของภาษาเยอรมันหมายถึง "นักรบ"  ส่วนนามสกุล "เบราน์" ภาษาเยอรมันแปลว่า "สีน้ำตาล"
 

5.Bertolt Hoover คู่หูของไครเนอร์ ผู้มีภารกิจพิเศษอย่างเดียวกัน "แบร์โทลต์" เป็นชื่อดั้งเดิมของภาษาเยอรมันเช่นกัน มีความหมายว่า "พลังที่แท้จริง" ส่วนนามสกุลเนี่ยลองไปหาความหมายภาษาอังกฤษดู ไม่รู้คนเขียนจงใจหรือเปล่า

 

6.Annie Leonhardt หญิงที่แบร์โทลต์หลงรัก เข้าสังกัดหน่วยตำรวจ เคยฝึกวิชาป้องกันตัวให้เอเลนอีกด้วย ชื่อ แอนนี่ เป็นภาษาฮิบรู มีความหมายว่า "การอธิษฐาน" ส่วนนามสกุล เป็นชื่อดั้งเิดิมของภาษาเยอรมันมีความหมายว่า "หัวใจสิงห์"

 

7.Ymir ทหารหญิงปากเสีย ไม่สนใจใคร นอกจาก... ชื่อของเธอ "ยูมิล" นำมาจาก ยักษ์ตนหนึ่ง ในเทพนิยายของทวีิปยุโรปตอนเหนือ (ตระกูลภาษาเยอรมัน)

 

8.Christa Renz ทหารหญิงผู้มีใจเมตตา คอยให้ความช่วยเหลือคนรอบข้างเสมอ ชื่อคริสตา เดิมทีเป็นภาษาละตินแปลว่า "ดอกไม้ของชาวคริสต์" แต่ภาษาเยอรมันดั้งเดิมมีความหมายว่า "ทองคำ" ส่วนนามสกุลเครนส์ มีความหมายว่า "เกียรติยศ" แต่ความจริงแล้วเธอมีชื่อว่า Historie Reiß โดยชื่อฮิสโทเครียแปลว่า "ประวัติศาสตร์" ส่วนนามสกุลไครส์ แปลว่า "รอยขาด"

 

9.Conny Springer เพื่อนในกลุ่มตัวเอกคนหนึ่ง โดยชื่อคอนนี่ เป็นชื่อดั้งเดิมภาษาเยอรมัน มีความหมายว่า "มั่นคง" ส่วนนามสกุลน่าจะเป็นภาษาอังกฤษ 


10.Sascha Bräus หญิงจอมตะกละผู้สร้างความป่วนในเรื่อง ส่วนชื่อซัสชา เป็นภาษากรีกดั้งเดิมแปลว่า "ผู้ปกป้อง" ส่วนนามสกุลบอยส์ แปลว่า "ก่อตัว"

 

11.Jean Kirschtein ทหารชายเพื่อนร่วมรุ่นเอเลน แอบชอบมิคาสะ ชื่อความจริงเป็นภาษาฝรั่งเศสอ่านว่า "ฌอง" มีความหมายว่า "พระเจ้าอวยพร" ส่วนนามสกุล คริชไตน์ เป็นภาษาเยอรมันดั้งเดิมแปลว่า "พลธนู"

 

12.Erwin Smith หัวหน้าหน่วยลาดตระเวน ปัจจุบันแขนขาดไปข้างหนึ่งแล้ว ชื่อเออวินเป็นภาษาเยอรมันดั้งเดิมมีความหมายว่า "กองทัพพันธมิตร" ส่วนนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษโบราณแปลว่า "ช่างตีเหล็ก"

 

13. Levi รองหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน ผู้ดูแลเอเลน มีรูปร่างภายนอกตรงกันข้ามกับฝีมือในการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง อ่านตามสำเนียงเยอรมันว่า "เลวี" มาจากชื่อตระกูลที่เกิดมารับใช้พระเจ้าโดยตรง ในพระคัมภีร์ไบเบิล

 
     
      เมื่อดูจากความหมายของชื่อตัวละครหลายตัวประกอบกับการดำเนินเรื่องที่มีมาจนถึงตอนนี้ ทำให้รู้ว่าคนเขียนการ์ตูน (Hajime Isayama) ได้วางโครงเรื่องนี้ไว้อย่างจงใจมาตั้งแต่แรกแล้ว 

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/  


 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
24 ตุลาคม 2013








วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การ์ตูน "ผ่าพิภพไททัน" กับภาษาเยอรมัน

 

 ภาษาเยอรมันกับการ์ตูนเรื่อง
ผ่าพิภพไททัน  
(Attack on Titan)

เรื่องย่อ       หนึ่งร้อยปีก่อนหน้านี้ มนุษยชาติได้ถูกโจมตีโดยเหล่าไททันจนเกือบสูญพันธุ์ ไททันคือมนุษย์ยักษ์ซึ่งมีหลายขนาด ส่วนใหญ่ไร้สติปัญญา ไร้เพศ ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเพื่อประทังชีวิต แต่สิ่งที่แย่ที่สุดของไททันสำหรับมนุษย์คือ พวกมันกินมนุษย์เพราะความชอบใจ มนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ มีชีวิตรอดอยู่ได้ภายในเมืองที่ปกป้องด้วยกำแพงสูงชัน ซึ่งสูงยิ่งกว่าไททันส่วนใหญ่ แต่แล้ววันหนึ่ง ประตูเมืองกลับถูกทำลายโดยไททันที่มีขนาดมหึมาสูงกว่ากำแพง ซึ่งโผล่มาอย่างกะทันหัน ทำให้ไททันตัวอื่นสามารถเข้ามาทำลายสิ่งก่อสร้างและจับมนุษย์กินไปเป็นจำนวนมาก จนในที่สุดเหล่ามนุษย์ที่เหลือรอด ได้เข้าร่วมกองทัพและฝึกฝนวิชาการต่อสู้ในฐานะทหาร และเตรียมรับมือต่อกรกับพวกไททัน เพื่อนำผืนดินที่ถูกชิงไปกลับคืนมา สามารถดูตัวอย่างและฟังเพลงภาษาเยอรมันประกอบการ์ตูนเรื่องนี้ได้ตามช่องทางด้านล่าง

 
     เป็นการ์ตูนที่มีกระแสตอบรับจากผู้อ่านในด้านบวกมากพอสมควร ด้วยเนื้อหาที่แปลกแหวกแนวกว่าการ์ตูนส่วนใหญ่ และเพลงเปิดตัว (Openning) เวอร์ชั่น 2 ของการ์ตูนเรื่องนี้ มีท่อนสร้อยเป็นภาษาเยอรมันตามนี้



 



1.Die Flügel der Freiheit (ปีกแห่งเสรีภาพ)
 

O, mein Freund!
พวกพ้องของฉัน

Jetzt hier ist ein Sieg.

เวลานี้ ณ ที่นี่คือชัยชนะ

Dies ist der erste Gloria.

นี่เป็นเกียรติยศครั้งแรก

Feiern wir diesen Sieg, für den nächsten Kampf!

เราจะฉลองชัยชนะครั้งนี้ เพื่อการต่อสู้ครั้งต่อไป

Der Feind ist grausam… Wir bringen…
ศัตรูมันเหี้ยมโหด พวกเราจะจับมัน

Der Feind ist riesig… Wir springen…
ศัตรูตัวมหึมา พวกเราจะกระโดดขึ้น

Flügel der Freiheit!
ปีกแห่งเสรีภาพ

Der Feind ist grausam…
ศัตรูผู้โหดเหี้ยม


     
     และยังมีเพลงประกอบเป็นภาษาเยอรมันเพลงอื่นอีกหลายเพลง ดังที่นำเนื้อเพลงมาให้ดูด้านล่างนี้

2.Bauklötze (ตัวต่อไม้)

Es ist wie das Spiel mit Bauklötzen
มันเหมือนกับการเล่นตัวต่อไม้
 

Ich mauere mit Steinen vorsichtig
ฉันสร้างกำแพงอย่างเอาใจใส่ด้วยตัวต่อ
 

Es ist wie das Spiel mit Bauklötzen
มันเหมือนกับการเล่นตัวต่อไม้
 

Ich sehe meinen leeren Baukasten an
ฉันมองไปที่กล่องใส่ตัวต่อที่ว่างเปล่า
 

Du brichst meine Mauer arglos mit schmutzigen Händen
เธอกำลังทำลายกำแพงอันบริสุทธิ์ของฉันด้วยมือที่โสมม
 

An jenem Tag war es ein sehr feuriges Abendrot
วันนั้นเป็นวันที่แสงตะวันมีสีเพลิงร้อนแรง
 

Ich versteckte die Bauklötze vor dir
ฉันซ่อนตัวต่อไม้ตรงหน้าเธอ
 

Traurige Erinnerung an meine Kindheit
ทุกความทรงจำอันรันทดในวัยเด็กของฉัน
 

Ist das der Zerstörer oder der Schöpfer?
มันเป็นผู้ทำลายหรือพระผู้สร้างกันแน่?
 

Mit der Glut des Hasses schwenken wir die Schwerter
ด้วยความชิงชังอันรุนแรง เราจึงกวัดแกว่งดาบนั้น
 

Ist das unser Schicksal oder unser Wille?
นี่คือโชคชะตาหรือความจงใจของเรากันแน่?
 

Wir werden kämpfen, bis dieser heiße Wind unsere Flügel nimmt
เราจะต่อสู้จนกว่าพายุอันเร่าร้อนนี้จะเผาปีกของเรา

Ich tue nichts in den Baukasten
ฉันไม่ได้ใส่อะไรในชุดตัวต่อนั้น
 

Ich will nichts verlieren
ฉันจะไม่ยอมสูญเสีย



3.Vogel Im Käfig (นกในกรง)

Der innere Reichtum der Leute ist
ความมั่งคั่งภายในมาจากปวงชน
 

Wie Licht bunt, durch Farbglas hereinzuscheinen
เฉกเช่นแสงอันสดใสส่องผ่านกระจกแก้วที่มีสีสัน
 

Das angenehme tägliche Leben ist
ชีวิตในแต่ละวันคือสิ่งที่น่าพอใจ
 

Wie ein warmes Kerzenlicht
ดั่งเเสงเทียนอันอบอุ่น

Die sehr weite grüne Erde
พื้นดินสีเขียวแผ่ไพศาล
 

Das reiche schöne Wasser
แม่น้ำสวยงามอุดมสมบูรณ์
 

Die grandiose Natur sorgt immernoch für ihre Kinder
ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ยังคงช่วยเหลือลูกหลานตัวเอง
 

Hoffentlich können wir es irgendwann verstehen
เราหวังว่าจะเข้าใจมันได้สักวัน 


Wir gehen zur anderen Seite des Horizontes
เรากำลังเดินไปยังอีกฟากหนึ่งของเส้นขอบฟ้า

Wir gehen festen Schrittes
เราไปด้วยก้าวเดินที่มั่นคง

Alles Lebendige stirbt eines Tages
ทุกชีวิตต้องตายในสักวันหนึ่ง
 

Ob wir zum Sterben bereit sind oder nicht
ไม่ว่าเราจะเตรียมใจตายหรือไม่
 

Der Tag kommt sicher
วันนั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน
 

Ist das der Engel, der vom dämmernden Himmel hinunter flog?
มันคือทูตสวรรค์ที่บินลงมาจากท้องฟ้ายามพลบค่ำ?
 

Ist das der Teufel, der aus der Felsenspalte heraus kroch?
หรือคือปีศาจที่คลานออกมาจากซอกหิน
 

Tränen, Ärger, Mitleid, Grausamkeit.
น้ำตา , โทสะ , ความเมตตา ,ความโหดร้าย
 

Frieden, Chaos, Glaube, Verrat.
สันติสุข , ความโกลาหล , ความศรัทธา , การทรยศ
 

Wir werden gegen unser Schicksal ankämpfen
เราจะต่อสู้กับดวงชะตาของตัวเอง
 

Wir dürfen uns nicht in unser Schicksal ergeben
เราต้องไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาของเรา
 

Mit Trauer und Entscheidung im Herzen
ด้วยความเศร้าและการตัดสินจากหัวใจ
 

Zeigen wir den Willen weiterzugehen
เราแสดงให้เห็นว่าจะมุ่งไปข้างหน้า
 

Niemand darf eigensinnig seines Lebens beraubt werden
ไม่มีผู้ใดจะไปกีดกันชีวิตของคนอื่นได้

 
  
4.ətˈæk 0N tάɪtn (จู่โจมใส่ไททัน)

Immer wieder bezeugen wir nur: sie haben gesiegt, wir haben verlor'n
กี่ครั้งแล้วที่เราเป็นแค่ผู้เห็นเหตุการณ์ พวกมันเป็นฝ่ายชนะ และพวกเราแพ้


Wieder bezeugen wir den Sieger, denn sie, in der Tat, kommen wieder
อีกครั้งที่เราเป็นพยานในฝ่ายชนะ เพราะในความเป็นจริงพวกมันย้อนมา


Sie waren grausam! Sie waren riesig! Immer weiter gehen die Titanen
พวกมันโหดร้าย พวกมันมหึมา พวกไททันเคลื่อนไหวมากขึ้นทุกเวลา


Wir im Zwinger werden sie bekämpfen, wir haben keine Angst vor den Titanen!
เราจะสู้กับพวกมันในเขตชั้นนอก พวกเราไม่กลัวไททัน


Ist das der Zerstörer oder der Schöpfer?

มันเป็นผู้ทำลายหรือพระผู้สร้างกันแน่?


Mit der Glut des Hasses schwenken wir die Schwerter
ด้วยความชิงชังอันรุนแรง เราจึงกวัดแกว่งดาบนั้น 


Ist das unser Schicksal oder unser Wille?
นี่คือโชคชะตาหรือความจงใจของเรากันแน่?


Wir werden kämpfen, bis dieser heiße Wind unsere Flügel nimmt

เราจะต่อสู้จนกว่าพายุอันเร่าร้อนนี้จะเผาปีกของเรา


Die Erde dröhnt und wird rot
ให้มันสนั่นโลก และกลายเป็นสีแดง


Die Leute erinnern sich an diese Tragödie
ปวงชนจะจำโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้
   
Wir sind die, die sich opfern um die Titanen zu bekämpfen
พวกเราคือผู้เสียสละตัวเองเพื่อต่อสู้กับไททัน


Wir sind die, die immer wieder zanken und vom Zwinger rufen
พวกเราคือผู้เชือดเฉือนไม่หยุดหย่อน โห่ร้องในเขตชั้นนอก


Wir Jäger suchen immerzu das Risiko
เราคือนักล่าผู้ควานหาความเสี่ยงตลอดไป


Immer wieder zanken und vom Zwinger rufen
ผู้เชือดเฉือนไม่หยุดหย่อน โห่ร้องในเขตชั้นนอก

Wir ziehen umher wie die Nomaden
เราตระเวนไปเหมือนพวกพเนจร


Zanken uns immer wieder mal mit der Garnison
พวกเราวิวาทกับกองทหารรักษาการณ์เป็นประจำ


Hin und wieder treffen wir auch mal auf die Polizei
บางครั้งพวกเราเผชิญหน้ากับหน่วยตำรวจ


Wieder und wieder bereit, unser Leben zu geben
เราพร้อมมอบชีวิตของตัวเองให้ครั้งแล้วครั้งเล่า


Was finden wir jenseits dieses Horizontes?

เพื่อสิ่งที่เราเสาะหานอกเส้นขอบฟ้านี้


สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/  

ดูเนื้อเพลงภาษาอังกฤษของการ์ตูน Attack on Titan ได้ที่ http://wlanru.blogspot.com/2013/10/attack-on-titan.html


 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
23 ตุลาคม 2013