วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Nîmes (เมืองนีมส์ ประเทศฝรั่งเศส)

ข้อมูลจาก ilovetogo.com

เมืองนีมส์ เมืองตอนใต้...อันแสนเสน่ห์แห่งฝรั่งเศส

ธรรมชาติที่สวยงาม ล้วนเป็นสถานที่ที่ใครหลายๆคนกำลังเสาะแสวงหา "ล็องก์ดอค-รูซียง" ถืออีกแคว้นที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความลงตัวระหว่างเมืองกับธรรมชาติและทิวทัศน์ที่น่าสนใจอีกแคว้นของประเทศฝรั่งเศส




แน่นอนว่ากลิ่นอายแห่งสเปน ที่ล่องลอยอบอวลไปทุกอณูอากาศ ซึ่งคุณอาจหาได้ที่ นีมส์ (Nîmes) เมืองท่องเที่ยวซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส

เมืองนีมส์ ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งมีความเก่าแก่ย้อนไปถึงยุคโรมัน นอกจากนี้เมืองนีมส์ยังเป็นที่รู้จักกันในประวัติศาสตร์สำหรับสิ่งทอ โดยเฉพาะ ยีนส์ สิ่งทอยอดนิยมของเราในปัจจุบันนั่นเอง



เมืองนีมส์กับน้ำพุ ดูจะเป็นสิ่งที่คู่กันมาช้านาน และหากคุณเป็นอีกคนที่ชื่นชอบความสนุกสนานของ เทศกาล งานฉลอง และสีสันของยามราตรี คงไม่แปลกใจถ้าสักวันหนึ่ง จะมีคนที่หน้าตาคล้ายๆคุณไปเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองนี้อีกคน

ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงอย่าง สนามกีฬาโรมันโบราณ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง และสถานที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นอีกจุดโฟกัสของเมืองอีกแห่งเช่นกัน





ต่อมาไปชม กำแพงโบราณ Aigues-Mortes ซึ่งกำแพงนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ตัวกำแพง ตั้งตระหง่านอยู่เหนือหมู่บ้านชาวประมง จากนั้นเข้าไปชมความงดงามภายในกำแพงเมืองโบราณ





จากนั้นไปชมแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง สะพานปงต์ ดู การ์(Pont du Gard) สะพานส่งน้ำโรมันโบราณ พื่อใช้เป็นสะพานส่งน้ำของเมืองนีมส์ (Nimes) ระยะทางยาวเกือบ 50 กิโลเมตร ทอดผ่านแม่น้ำการ์ด์ (Gard) ซึ่งองค์ยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1985



เมืองนีมส์ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ด้วยประวัติศาสตร์และความเก่าแก่ของเมือง นีมส์จึงน่าจะเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่คุณน่าจะมาเยือนสักครั้ง


 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
31 กรกฎาคม 2013



วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก แห่งปารีส

ข้อมูลโดย travel.mthai.com

สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก แห่ง ปารีส

สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก แห่ง ปารีส
สะพานสปริง ข้ามแม่น้ำเซน ถูกกำหนดที่ตั้งให้อยู่ใกล้กับ สะพาน Bir-Hakeim สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก นี้ โดดเด่นและแตกต่างจากสะพานข้ามทั่วไป ทั้งแนวคิดและรูปลักษณ์ Trampoline Bridge ประกอบ ด้วย ทุ่นพีวีซียักษ์ 3 ห่วง เชื่อมต่อกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร (98 ฟุต) มีขนาด 3,700 ลูกบาศก์เมตร (130,664 ลูกบาศก์ฟุต) พื้นที่ตรงกลางเป็นตาข่ายผ้าใบ ออกแบบให้โดด-เด้ง-ดึ๋งได้ สนุกสนานตลอดการเดินบน สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก


สะพานสปริง ข้ามแม่น้ำเซน สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก

สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก แห่ง ปารีส

 ใครที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่าง สปริงผ้าใบ น่าจะถูกอกถูกใจ สะพานสปริง ข้ามแม่น้ำเซน นอกจากจะช่วยลดการใช้พลังงาน ยังช่วยส่งเสริมให้คนออกกำลังกายทางอ้อม ..แต่จะว่าไป จะมีสักกี่คนที่อยากข้ามไปถึงอีกฝั่งโดยไว หากเจอ สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก แห่งนี้

 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
30 กรกฎาคม 2013

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Najat Vallaud -Belkacem

ข้อมูลโดย prachachat.net
 

"Najat Vallaud -Belkacem (นาชา วัลโลด์-แบลกาซอง)" เป็น 1 ในรัฐมนตรีหญิงของฝรั่งเศส นั่นไม่แปลกพอให้เราเขียนถึง เพราะคณะรัฐมนตรีปัจจุบันในฝรั่งเศสเป็นเพศชาย-หญิงอย่างละครึ่ง

ที่น่าสนใจคือตำแหน่งที่เธอดูแล "
นาชา วัลโลด์-แบลกาซอง" ถูกแต่งตั้งให้เป็น "รัฐมนตรีกระทรวงสิทธิผู้หญิง" และ "โฆษกรัฐบาล" ในรัฐบาลของนายฟรองซัวส์ ออลลองด์นาชา วาโลด์-เบลเกซัม ในวัย 36 ปี ไม่นับว่ามีประสบการณ์ทางการเมืองมาก หากเทียบกับความรับผิดชอบที่เธอได้รับ 


เธอไม่ได้เป็นชาวฝรั่งเศสตั้งแต่กำเนิด เธอเกิดในชนบทโมร็อกโก ย้ายรกรากมาอยู่ฝรั่งเศสตอน 4 ขวบพร้อมกับแม่ เพื่อมาสมทบพ่อที่เข้ามาทำงานเป็นกรรมกรในฝรั่งเศส

แน่นอนว่าชีวิตวัยเด็กเธอมาจากครอบครัวยากจน ในสภาพแวดล้อมของเธอไม่มีใครพูดถึงเรื่องการเมือง แต่

เธอเป็นเด็กเรียนดี เธอได้ทุนเรียนที่สถาบันการเมืองการปกครองปารีส (Paris Institute of Political Studies) 
เหตุทางการเมืองที่จุดประกายให้เธออยากลงมาในสนามการเมือง เกิดขึ้นปีเดียวกับที่เธอจบการศึกษา คือในปี 2545 "ฌอง-มารี เลอเปน" หัวหน้าพรรคแนวหน้าแห่งชาติ ฝ่ายอนุรักษนิยม สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับชาวฝรั่งเศสและนานาชาติ ด้วยการเอาชนะ "ลีโอเนล โฌส์แปง" จากพรรคสังคมนิยม พลิกทุกโพลในประเทศ แม้ว่าในสมัยนั้น "ฌากส์ ชีรัก" จะได้ตำแหน่งประธานาธิบดีไปครองก็ตาม 


ก่อนหน้าที่เธอจะได้รับหน้าที่สำคัญในรัฐบาลนายออลลองด์ เธอเคยได้รับตำแหน่งให้อยู่ในทีมโฆษกของ "เซกอแลน รัวยาล" ระหว่างการเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2550 
นาชา วัลโลด์-แบลกาซอง เอาจริงเอาจังกับตำแหน่งที่เธอสวมอยู่ และเห็นว่ากรณีนายโดมินิก สเตราส์-คานห์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส ถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิง เป็นอีกประเด็นที่ผู้หญิงฝรั่งเศสตื่นตัวเรื่องสิทธิ 

เธอบอกว่า ปัญหาสิทธิผู้หญิงในฝรั่งเศสที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการถูกล่วงละเมิดทางเพศเป็นประเด็นสำคัญ แม้ว่าการรวมตัวกันของผู้หญิงที่จะขับเคลื่อนสิทธิในฝรั่งเศสจะเข้มข้น แต่ก็ยังไม่มีพลังในมือมากพออยู่ดี เพราะส่วนหนึ่งมาจากกฎหมายเรื่องนี้ของฝรั่งเศสที่ไม่ชัดเจนมาเนิ่นนาน 

ผู้หญิงจึงต้องต่อสู้ให้ความรู้สึกไม่หวั่นเกรงการถูกลงโทษของผู้ที่ทำร้ายผู้หญิงหมดไป 


เธอเคยเอ่ยชัดถ้อยชัดคำถึงขนาดที่ว่าอยากให้โสเภณีในฝรั่งเศสหมดไป ! ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอสวย ฉลาด และน่าจะมีอนาคตบนถนนการเมืองฝรั่งเศสอีกนาน




Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/


สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
29 กรกฎาคม 2013

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝรั่งเศสเลิกคำว่า "Mademoiselle" นำหน้าสตรี

  ข้อมูลโดย voicetv.co.th

 ฝรั่งเศสเลิกคำว่า ‘มาดมัวแซลล์’นำหน้าสตรี

นายกฯ ฝรั่งเศส ประกาศ เลิกใช้ "Mademoiselle (มาดมัวแซลล์)" นำหน้า ผู้หญิง บนเอกสารราชการ เนื่องจาก ไม่ยุติธรรม

นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ ฟียง ของฝรั่งเศส ประกาศคำสั่ง เลิกใช้คำว่า "มาดมัวแซลล์" ซึ่งมีความหมายเหมือนกับคำว่า "Miss" ในภาษาอังกฤษ หรือ หมายถึง "นางสาว" ในเอกสารราชการทั้งหมด เนื่องจากคำดังกล่าวสามารถสื่อความหมายว่า ผู้หญิงที่ถูกกล่าวถึง ยังโสด ซึ่งหลายฝ่ายคิดว่า ไม่ยุติธรรม
 
โดย ฟรองซัวส์ ฟียง ยังประกาศเลิกใช้วลี "นอม เดอ ชวน ฟิลเล่" ซึ่งหมายถึง ชื่อก่อนแต่งงานของผู้หญิง หรือ ไมเดน เนม (Maiden name) ในภาษาอังกฤษ บนเอกสารราชการทั้งหมดเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องล้าสมัย ทั้งยังมีความหมายโดยนัยว่า เป็นหญิงพรหมจารี ได้ด้วย
 
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ระบุว่า นับจากนี้ให้ใช้คำว่า ‘มาดาม’กับผู้หญิง แทนคำว่า มาดมัวแซลล์ และใช้วลี ชื่อสกุล (family name) หรือ ชื่อที่เคยใช้ แทน วลี ชื่อก่อนแต่งงาน โดยนักรณรงค์เพื่อสิทธิสตรีชาวฝรั่งเศส ก็ออกมาแสดงความยินดีกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า มันไม่ยุติธรรม ที่ผู้หญิงต้องถูกถามว่า แต่งงานหรือยัง เวลาทำธุรกรรมต่าง ๆ ขณะที่ ผู้ชาย ไม่ถูกถาม
 
ก่อนหน้านี้ ภาษาฝรั่งเศส Madame (มาดาม) ใช้เรียกผู้หญิงทั่วไป หรือ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ซึ่งเป็นการให้เกียรติ เหมือนกับคำว่า Mrs. (มิสซิส) ในภาษาอังกฤษ ส่วน Madamoselle (มาดมัวเเซลล์)  ใช้เรียกผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน เหมือนกับคำว่า มิส (MISS) ในภาษาอังกฤษ  ขณะที่ ผู้ชาย ใช้ monsieur  (เมอซิเออร์) คำเดียว เหมือนกับคำว่า มิสเตอร์ ในภาษาอังกฤษ

 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
28 กรกฎาคม 2013

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชนชาติที่นอนเก่งและแก้ผ้าไวที่สุด

 ข้อมูลโดย oknation.net

ใครเห็นข่าวนี้แล้วก็คงต้องอิจฉา แถมด้วยความหมั่นไส้ นั่นคือ ข่าวที่องค์กรแห่งความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ของสหประชาชาติ ได้สำรวจพบว่า ชาวฝรั่งเศสเป็นชนชาติที่มีความสุขมากที่สุด


เพราะพี่แกตะบี้ตะบันนอนอุตุ อยู่บนเตียงนานกว่าชาวโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะนอนกันแค่คืนละ 6-7 ชั่วโมง แต่ชาวฝรั่งเศสนอนถึงคืนละเกือบ 9 ชั่วโมง มากกว่าชาวเกาหลี, อเมริกัน และสเปนถึงกว่า 1 ชั่วโมง สมัยหนึ่งชาวฝรั่งเศสยังนอนกลางวันแถมเข้าไปด้วยอีกชั่วโมงสองชั่วโมง (วัฒนธรรมนี้เคยพยายามเผยแพร่ในกลุ่มประเทศอินโดจีนมาแล้ว เช่น ลาว เขมร และเวียดนาม) และนานยิ่งกว่าชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้ เวลาในการทำงานและเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานมากกว่าชาติใดๆ ความจริงที่ยังตกสำรวจมีอยู่ว่า ผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้นกว่าจะกลับถึงบ้านได้ก็แวะเมาแประอยู่ตามร้านอา หารและสแน็ก บาร์จนดึกดื่น ทำให้เวลานอนยิ่งน้อยกว่าหลายชนชาติในโลก
 

นอกจากนี้ยังพบว่า ชาวฝรั่งเศสยังทำตัวได้น่าอิจฉายิ่งไปกว่านั้น ก็คือ พวกเขายังใช้เวลาจิบไวน์และละเลียดกับบรรดาอาหารชั้นเลิศนานกว่าคนอเมริกัน อังกฤษ และเม็กซิกันเกือบเท่าตัว
ลึก ไปกว่านั้น มีผลสำรวจจากองค์กรอื่นๆ อีกว่า คนฝรั่งเศสโดยเฉลี่ยนอกจากจะเน้นเรื่องเครื่องดื่มและอาหารการกินที่มีแต่นมเนย และหลายอย่างก็เต็มไปด้วยคอเลสเตอรอล แต่ไม่ยักมีสถิติเป็นโรคหัวใจและโรคอื่นๆ ที่สำคัญไม่อ้วนจ้ำม่ำเหมือนชนชาติอื่นๆ โดยเฉพาะอเมริกันที่กำลังมีปัญหาโรคอ้วนขนาดหนักอยู่ในขณะนี้

 
ผู้หญิง กับความอ้วนเป็นสิ่งที่ ‘รับไม่ได้’ อย่างเด็ดขาด แต่ผู้หญิงฝรั่งเศสกลับได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่สามารถกำราบปราบปรามความ อ้วนได้อย่างชะงัดเหนือกว่าผู้หญิงหลายประเทศในยุโรป มิเรลล์ จูลิอาโน สาวใหญ่ชาวฝรั่งเศสเขียนหนังสือเอาไว้เล่มหนึ่งชื่อ French Women Don’t Get Fat เธอบอกว่า ชายและหญิงฝรั่งเศสกินอาหารด้วยความสุข โดยทุ่มเทความสนใจในการกินอาหารอย่างเต็มที่ เคี้ยวแต่ละคำอย่างช้าๆ ซึ่งไม่ได้ช้าเพราะเพียงแค่เป็นมารยาทเท่านั้น
 

ส่วน สาวมะกันกระดกน้ำอัดลม ชากาแฟ น้ำผลไม้บรรจุขวด แต่ดื่มน้ำเปล่าน้อยมาก ส่วนสาวฝรั่งเศสดื่มน้ำเปล่าวันละเป็นลิตรๆ และดื่มน้ำที่มีกาเฟอีนอย่างสาวมะกันน้อยมาก หนังสือ ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสยอมรับ ว่า การดื่มกินเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของฝรั่งเศส ไวน์จึงเป็นรากฐานอย่างหนึ่งของฝรั่งเศส จนมีคำกล่าวของนักปรัชญาที่ว่า

“ถ้าบนโลกนี้ไม่มีไวน์ ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ย่อมว่างเปล่า ความว่างเปล่านี้สามารถทำลายคนเราได้ยิ่งกว่าการดื่มไวน์จะทำได้เสียอีก ไม่ผิดใช่ไหมหากจะบอกว่าคนที่ไม่ดื่มไวน์ทั้งที่จงใจและไม่จงใจนั้น ถ้าไม่โง่ก็เป็นที่ไม่จริงใจ คนที่ดื่มแต่น้ำเปล่าคือคนที่ต้องการจะซ่อนเร้นอะไรบางสิ่งบางอย่างไว้”

สิ่ง ที่ทำให้ ‘อังเคิลอลิศ’ ถึงกับขอบตา ร้อนผ่าวก็คือ การสำรวจอีกชิ้นหนึ่งที่บอกว่า เซ็กซ์ของคนฝรั่งเศสเป็นเซ็กซ์ที่มีคุณภาพมากที่สุด ทำได้บ่อยและมีประสิทธิภาพกว่าทุกชาติพันธุ์บนโลก (เรื่องนี้ผมพยายามจะไม่เชื่อสถิติใดๆ)

 

เขาว่ากันว่า คนฝรั่งเศสไม่เคยรีบร้อน เรื่องเซ็กซ์ พวกเขาถือว่า นี่คือความรื่นรมย์ที่ละเมียดละไมประการหนึ่งซึ่งขาดไม่ได้ของมนุษย์ เท่าๆ กับที่ฝรั่งเศสละเลียดไวน์และอาหารที่เคี้ยวเอื้องแต่ละคำอย่างช้าๆ ทุกขณะเต็มไปด้วยรสชาติ ถือเป็นงานศิลปะประจำวัน (หรือวันเว้นวัน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ แล้วแต่วัย) อันงดงามอีกชิ้นหนึ่ง

ประวัติศาสตร์ยังบอกเอาไว้อีกว่า ด้วยเหตุนี้คนฝรั่งเศสจึงแก้ผ้าไวมาก แฟชั่นชั้นยอดของโลกจึงเกิดขึ้น เหมือนที่ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส-จัง ลองแวงที่เคยพูดไว้ว่า “มีแต่ประเทศที่คนถอดเสื้อผ้าบ่อยที่สุดเท่านั้น จึงจะมีคนแต่งกาย ดีที่สุด”

แต่ นี่ไม่ได้หมายความว่า คนแก้ผ้าไวจะเป็นคนแต่งตัวดีที่สุดเสมอไปหรอกนะ เพราะคนคนนั้นอาจจะแต่งตัวไม่ได้เรื่อง แต่เผอิญแก้ผ้าแล้วจะดูดีมาก !


 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
27 กรกฎาคม 2013

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ธรรม​เนียมติดต่อธุรกิจกับชาวฝรั่ง​เศส

ข้อมูลโดย ryt9.com

 

ฝรั่ง​เศส​เป็นประ​เทศที่มีขนาด​เศรษฐกิจ​ใหญ่​เป็นอันดับ 2 ของ EU รองจาก​เยอรมนี ​ทั้งยัง​เป็นตลาดส่งออกสินค้าสำคัญของ​ไทย​โดย​เฉพาะ​เสื้อผ้าสำ​เร็จรูป อัญมณี​และ​เครื่องประดับ นอกจากนี้ ฝรั่ง​เศสยังมีศักยภาพ​ใน​การ​เป็น​แหล่งกระจายสินค้าที่สำคัญ​แห่งหนึ่ง​ใน ภูมิภาคยุ​โรป

ธรรม​เนียมปฎิบัติสำคัญที่ควรทราบ​ใน​การติดต่อธุรกิจกับชาวฝรั่ง​เศส
 

1. ​การ​แต่งกาย ชาวฝรั่ง​เศส​ให้​ความสำคัญค่อนข้างมากกับ​การ​แต่งกาย ​ซึ่งถือ​เป็น​การ​ให้​เกียรติ​แก่คู่​เจรจาทางธุรกิจ ดังนั้น ​ใน​การนัดหมายกับชาวฝรั่ง​เศส​จึงควร​เลือก​เครื่อง​แต่งกายที่สุภาพ​แบบ สากล ​โดย​ผู้ชายควร​แต่งกายด้วยชุดสูทสี​เข้ม ส่วน​ผู้หญิงสามารถ​เลือกสวม​ได้​ทั้งชุดสูทสีอ่อน​และสี​เข้ม ​แต่ควร​เป็นชุดกระ​โปรง​ซึ่งดู​เรียบร้อยกว่า​การสวมชุดกาง​เกง นอกจากนี้ควร​ให้​ความสำคัญกับยี่ห้อของ​เครื่อง​แต่งกาย​และ​เครื่องประดับ ต่างๆ ​ซึ่งควร​เป็นที่รู้จักอย่าง​แพร่หลาย​และออก​แบบ​โดยดี​ไซ​เนอร์ที่มีชื่อ​ เสียง ​เนื่องจากชาวฝรั่ง​เศสนิยม​ความหรูหรา

 

2. ​การนัดหมาย หากต้อง​การนัดหมาย​เพื่อติดต่อธุรกิจกับชาวฝรั่ง​เศส ควร​แจ้ง​ให้คู่​เจรจาทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ผ่านทาง​โทรศัพท์​หรือจดหมาย สำหรับช่วง​เวลา​ทำ​การ​ในฝรั่ง​เศสคือ ​เวลา9.00-18.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ ​โดยมีช่วง​เวลาพักอยู่ระหว่าง 13.00-15.00 น. ของทุกวัน ​ทั้งนี้ควรหลีก​เลี่ยง​การนัดหมาย​ในช่วง​เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ​เนื่องจากมีวันหยุดจำนวนมาก​และชาวฝรั่ง​เศสนิยมลาพักผ่อนต่อ​เนื่อง​ใน ช่วงดังกล่าวคล้ายกับช่วงวันหยุดสงกรานต์ของ​ไทย รวม​ทั้งควรหลีก​เลี่ยง​การนัดหมาย​ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน​และหลัง​เทศกาลคริสต์มาส​และ​เทศกาลอีส​เตอร์

 
3. ​การทักทาย​และ​การสนทนา ควรทักทายด้วย​การจับมือ​แบบสากล​และกล่าวคำว่า "Bonjour" (อ่านว่าบง-ชู้ร) ​แปลว่าสวัสดี ​ใช้​ได้ตั้ง​แต่ช่วง​เช้า-บ่าย ส่วนคำว่า "Bonsoir" (อ่านว่าบง-ซัวร) ​ใช้​ในช่วง​เย็น-ค่ำ สำหรับ​การ​เรียกชื่อคู่สนทนาควร​เรียกนามสกุล ​เนื่องจากชื่อตัว​ใช้​เรียกกัน​เฉพาะคน​ในครอบครัว​หรือ​เพื่อนสนิท​เท่า นั้น รวม​ทั้งควร​ใช้คำนำหน้าชื่อว่า "Monsieur" (อ่านว่า​เมอ-ซิ-​เยอร์) สำหรับ​ผู้ชาย​และ "Madame" (อ่านว่ามา-ดาม) สำหรับ​ผู้หญิง นอกจากนี้ ​ใน​การ​เจรจาธุรกิจควร​เรียบ​เรียงประ​เด็นสนทนาอย่าง​เป็นระบบ​และมีลำดับ ขั้นตอน​เนื่องจากชาวฝรั่ง​เศสค่อนข้างมี​ความ​เป็นระ​เบียบ​แบบ​แผน รวม​ถึงควรหลีก​เลี่ยง​การถาม​ถึง​เรื่องส่วนตัว ​ซึ่งถือ​เป็น​การ​เสียมารยาทอย่างรุน​แรงสำหรับชาวฝรั่ง​เศส

 

4. ​การ​เจรจาธุรกิจบน​โต๊ะอาหาร ​การ​เจรจาธุรกิจระหว่างรับประทานอาหารช่วย​ให้คู่​เจรจาสามารถสร้าง​ความ คุ้น​เคยกัน​ได้​เป็นอย่างดี ​โดยทั่ว​ไป​แล้วมื้ออาหารที่​เหมาะกับ​การ​เจรจาธุรกิจมากที่สุดคือ มื้อกลางวัน ​เนื่องจาก​เป็นช่วงที่อยู่ระหว่าง​เวลา​ทำ​การ
​ทั้งนี้ ชาวฝรั่ง​เศสมี​ความพิถีพิถัน​ใน​การรับประทานอาหาร​และ​ให้​ความสำคัญมาก กับมารยาทบน​โต๊ะอาหาร ​ซึ่งมีข้อปฏิบัติที่ควรทราบ อาทิ

* ควรวางมือ​และข้อมืออยู่พ้นขอบ​โต๊ะ​เสมอ ​ไม่ควรวางข้อศอกบน​โต๊ะอาหาร

* ควร​ใช้มือฉีกขนมปัง​แทน​การ​ใช้มีดตัด

* ควรหั่นผล​ไม้ด้วยมีดก่อนรับประทานทุกครั้ง

* ​ไม่ควร​เหลืออาหาร​ไว้​ในจาน ​เพราะถือว่า​ไม่สุภาพ

* ​เมื่อรับประทานอาหาร​เสร็จ​แล้ว ควรรวบส้อม​และมีด​ไว้​ในตำ​แหน่ง 5.25 น.

 

5. ​การมอบของขวัญ ​ไม่ควรมอบของขวัญที่มีตรา​หรือ​เครื่องหมายของบริษัท ​เนื่องจากถือ​เป็น​การ​แสดงออกที่​ไม่​เหมาะสมสำหรับชาวฝรั่ง​เศส ​ทั้งนี้หากต้อง​การมอบ​ไวน์​เป็นของขวัญควร​เลือกยี่ห้อที่ดีที่สุด​เท่า ที่จะหา​ได้ หากต้อง​การมอบดอก​ไม้ ควรหลีก​เลี่ยงดอกลิลลี่สีขาว​เนื่องจาก​เป็นดอก​ไม้ที่​ใช้​เฉพาะ​ในงานศพ​ และหลีก​เลี่ยงดอกคาร์​เนชันสี​แดง​เนื่องจาก​เป็นดอก​ไม้ที่ชาวฝรั่ง​เศส ถือว่า​แสดง​ถึง​เจตนาร้าย รวม​ถึงดอก​ไม้สีขาวชนิดอื่นๆ ​เนื่องจาก​เป็นดอก​ไม้ที่นิยม​ใช้​ในงาน​แต่งงาน​เท่านั้น นอกจากนี้ควรมอบดอก​ไม้​เป็นจำนวนคี่​แต่ต้อง​ไม่​เท่ากับ 13 ​เนื่องจากชาวฝรั่ง​เศส​เชื่อว่า​เป็น​เลขที่นำมา​ซึ่ง​ความ​โชคร้าย

 
6. ​เกร็ดน่ารู้อื่นๆ อาทิ* ​การยืนล้วงกระ​เป๋าระหว่าง​การสนทนาถือ​เป็น​การกระ​ทำที่​ไม่สุภาพอย่างยิ่ง
* ​ไม่ควรนั่ง​แยกขา​และวาง​เท้าบน​โต๊ะ​หรือ​เก้าอี้* ​การฝึกพูดภาษาฝรั่ง​เศสด้วยคำง่ายๆ ​หรือประ​โยคสั้นๆ ที่​ใช้​ในชีวิตประจำวันสามารถสร้าง​ความประทับ​ใจ​ให้​แก่ชาวฝรั่ง​เศส​ได้ ​เป็นอย่างดี
* นามบัตรที่​ใช้​ใน​การติดต่อธุรกิจควรพิมพ์​เป็น 2 ภาษาคือภาษาอังกฤษ​และภาษาฝรั่ง​เศสอย่างละด้าน รวม​ทั้งควรระบุวุฒิ​การศึกษาของ​เจ้าของนามบัตรด้วย
* ​การ​แสดงสัญสักษณ์ "OK" สำหรับชาวฝรั่ง​เศสคือ ​การชูนิ้วหัว​แม่มือขึ้น

 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
26 กรกฎาคม 2013

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศิลปะการใช้ชีวิตแบบฝรั่งเศส

 ข้อมูลโดย campusfrance.org

 

คุณทราบหรือไม่ว่า ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากภูมิประเทศที่สวยงามและหลากหลาย ระบบการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายและทันสมัย และการให้ความสำคัญด้านการบริการด้านสุขภาพ


 

สถาบันการศึกษาของ ฝรั่งเศสมักตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงสามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมและศูนย์วัฒนธรรมฝรั่งเศส เช่น ร้านขายหนังสือ ห้องสมุด โรงภาพยนตร์ โรงละคร หรือร้านกาแฟแบบฝรั่งเศส เป็นต้น

ในประเทศฝรั่งเศสคุณสามารถเข้าถึงความหลากหลายของวัฒนธรรม สันทนาการและการกีฬา สิ่งนี้ทำให้ชีวิตนักศึกษาในประเทศฝรั่งเศสเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก

 

ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีระบบการดูแลสุขภาพตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด เมื่อลงทะเบียนเรียนในสถาบันการศึกษาของฝรั่งเศส นักเรียนต่างชาติจะได้รับสิทธิ์ประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีราคาไม่แพงแต่มีประสิทธิภาพสูง อายุเฉลี่ยของคนฝรั่งเศสถือได้ว่าสูงที่สุดในโลก คือ 77 ปี​​สำหรับผู้ชายและ 84 ปีสำหรับผู้หญิง ในส่วนของเวลาการทำงานต่อสัปดาห์ตามที่กฎหมายกำหนด คือ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสามารถหยุดพักร้อนได้ถึง 5 สัปดาห์ต่อปี


ฝรั่งเศสเป็นเมืองแห่งมรดกโลก ปารีส เป็นสถานที่ชั้นนำของโลกสำหรับการท่องเที่ยว และงานแสดงสินค้านานาชาติ หอไอเฟลและดิสนีย์แลนด์ถือเป็นที่ที่มีคนทั่วโลกเข้าชมมากที่สุด และเหตุที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป   มีพรมแดนธรรมชาติติดกับ 9 ประเทศ สนามบิน Charles-de-Gaulle จึงเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้มากเป็นอันดับ 2 ของยุโรปและเป็นอันดับ 6 ของโลก มีเส้นทางถนนที่เชื่อมโยงกัน มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ในฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป (รวมทั้งลอนดอน, อัมสเตอร์ดัมและเจนีวา) สามารถ เดินทางไปยัง 22 ประเทศโดยใช้วีซ่าเชงเก้น ใช้เงินยูโรเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปอีก 15 ประเทศ จึงมีความสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศใกล้เคียง


ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 ยูเนสโกได้จัดให้ฝรั่งเศสเป็นผู้นำด้านอาหารและศิลปะการปรุงอาหารของโลก ฝรั่งเศสมีเนยแข็งกว่า 360 ประเภท ไวน์ชั้นดีจากไร่องุ่นในแคว้น Bordeaux, Burgundy และอีกหลายพื้นที่ พ่อครัวชาวฝรั่งเศสก็มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก
 

Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
25 กรกฎาคม 2013

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Mimosa Pattaya สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ฝรั่งเศส

 ข้อมูลโดย http://travel.mthai.com

ชวนเที่ยว มิโมซ่า พัทยา

หากคุณกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สไตล์ฝรั่งเศสในพัทยา ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน ” มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya) ” แหล่งช้อป-กิน-เที่ยวภายใต้บรรยากาศเมืองนอก ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “The City of Love เมืองเเห่งความรัก” แหล่งท่องเที่ยวกลิ่นไอสถาบัตยกรรมเมืองโบราณของฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยสีสันสดใส บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์แห่งเดียวในเมืองพัทยา โอบล้อมด้วยบรรยากาศอันแสนโรเเมนติก กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
มิโมซ่า พัทยา
มิโมซ่า พัทยา ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ 38.5 ไร่ ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน / วัน บริหารโดยคุณ จิรโชติ แก้วเสถียร ในขั้นตอนการออกแบบนั้นได้มีทีมงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมท้องถิ่นชาวฝรั่งเศส เดินทางไปที่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปเก็บรายละเอียด ก่อนที่จะลงมือสร้างมิโมซ่า
มิโมซ่า พัทยา
มิโมซ่า พัทยา แหล่งเที่ยวแห่งใหม่ สไตล์ฝรั่งเศส
มิโมซ่า พัทยา
โดยภายในนั้น ประกอบไปด้วยศูนย์รวมสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ร้านอาหารไทย อาหารนานาชาติหลากหลายชนิด ร้านไอศกรีม, ร้านขายของที่ระลึกที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอย่างครบครัน ผ่อนคลายสบายๆ ด้วย การนวดแผนไทย การนวดอโรมา และอื่นๆ
มิโมซ่า พัทยามิโมซ่า พัทยา
การเดินทาง ไป มิโมซ่า พัทยา แนะนำให้ใช้เส้นทาง Motorway (สาย 7) ออกตรงพัทยา วิ่งเส้นสุขุมวิท มุ่งหน้าไปพัทยาใต้ หาดจอมเทียน หลังจากเลยพัทยา ใต้ไปแล้วจะ เจอตลาดน้ำ 4 ภาค และอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะเจอ มิโมซ่า ( Mimosa ) อยู่ทางซ้ายมือติดถนนสุขุมวิท อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียน โดย มิโมซ่า พัทยา มีที่จอดรถค่อนข้างเยอะ สามารถจอดได้ที่ด้านหน้าและลานจอดด้านหลัง โดยไม่เสียค่าจอดรถ
 แผ่นที่ มิโมซ่า พัทยา
ดูข้อมูลเพิ่มเติม มิโมซ่า พัทยา
http://www.mimosa-pattaya.com/main/index.php หรือ
https://www.facebook.com/mimosapattaya

 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
24 กรกฎาคม 2013

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

งานเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศสที่กรุงเทพฯ

     ข้อมูลโดย ambafrance-th.org

งานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศสมีขึ้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา


ผู้มีเกียรติกว่า 500 คนได้เข้าร่วมงานดังกล่าวซึ่งเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยและภริยา เป็นเจ้าภาพ ม.ร.ว.เทพกมล เทวกุล องคมนตรี นายพงเทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี สมาชิกผู้แทนราษฎร วุฒิสมาชิก เอกอัครราชทูต รวมถึงแขกรับเชิญจากแวดวงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ ศิลปิน และอาจารย์หลายท่าน ได้ให้เกียรติร่วมงานนี้ด้วย 



สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสขอขอบพระคุณบริษัท Thalès, Essilor และ MSH อย่างสูงที่สนับสนุนการจัดงานดังกล่าว 

 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
23 กรกฎาคม 2013

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝรั่งเศสฉลองวันชาติยิ่งใหญ่

 ข้อมูลโดย posttoday.com

ฝรั่งเศสฉลองวันชาติยิ่งใหญ่ จัดพิธีสวนสนาม พร้อมเครื่องบินไอพ่น พ่นควันเป็นรูปธงชาติ
ทางการฝรั่งเศสจัดพิธีสวนสนามพร้อมกองทหารจาก 13 ประเทศในแอฟริกาที่สนับสนุนฝรั่งเศสในสงครามปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในเครือ อัลกออิดะห์ที่มาลี เนื่องในวันบาสตีย์ หรือวันชาติฝรั่งเศส 14 กรกฎาคม ที่กรุงปารีสในวันนี้


ทหารฝรั่งเศสพร้อมด้วยกองทหารจากแอฟริกา ร่วมเดินสวนสนามไปตามถนนชองส์เซลิเซส์ เพื่อรำลึกถึงวันปฎิวัติฝรั่งเศสยึดเรือนจำบาสตีย์ 14 กรกฎาคม 2332 ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ กล่าวสุนทรพจน์สดุดีกองทัพ ความร่วมมือของมาลีและประเทศในแอฟริกา รวมทั้งนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมประเทศในแอฟริกาเป็นตัวแทนเข้าร่วมในพิธีสวนสนามด้วย


Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
22 กรกฎาคม 2013

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

งานวันภาษาสเปน 6 โรงเรียนมัธยม

     ภาพบรรยากาศงาน "วันภาษาสเปน" จัดที่โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 โดยมีโรงเรียนมัธยมในสังกัดกรุงเทพมหานครฯ เข้าร่วมงาน 6 โรงเรียน อันได้แก่ 
 
1.โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์
2.โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์
3.โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ
4.โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์
5.โรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์
6.โรงเรียนวัดยายร่ม (วัฒนราษฎร์รังสรรค์)

     จัดขึ้นทุกปี หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 ภายในงานมีการแสดงของตัวแทนนักเรียนของแต่ละโรงเรียน เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศสเปน สามารถคลิกดูได้ตาม link ข้างล่าง


     นอกจากนี้ยังมีการจัดบอร์ดประชาสัมพันธ์ความรู้ทางภาษาสเปน และมีการแ่ข่งขันความสามารถด้านภาษาสเปนอีกด้วย อาทิเช่น การแข่งขันตอบปัญหาคำศัพท์ภาษาสเปน และการอ่านภาษาสเปน สามารถติดตามได้ตาม link ด้านล่างนี้



Únete al grupo de Facebook "Club de las lenguas occidentales de la Universidad de Ramkhamhaeng" a  https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 


จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
21 กรกฎาคม 2013

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดูงานสนามบินดอนเมือง - ชมรมภาษาตะวันตก รามคำแหง

     ภาพบรรยากาศการดูงานที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ของชมรมภาษาตะวันตก มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556 

คลิบวิดีโอ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานดอนเมืองกล่าวต้อนรับ


คลิบวิดีโอ ดูภายในเครื่องบินนกแอร์ 



Únete al grupo de Facebook "Club de las lenguas occidentales de la Universidad de Ramkhamhaeng" a  https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ 

จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
20 กรกฎาคม 2013