ข้อมูลโดย Tamabea Blog (เอิง)
เมือง Thessaloniki ประเทศกรีซ
มีโอกาสมาเที่ยวพักร้อนในเดือนสิงหาคม เราเลือกมาที่ประเทศกรีซ เมืองเทสสะโลนิกิThessaloniki ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศค่ะ ดิฉันกับสามีออกจากมิลานมาแต่เช้ามืด ใช้เวลาประมาณหนึ่งชัวโมงกับสี่สิบนาทีก็มาถึง เมืองนี้นอกจากจะมีทะเลและอ่าวขนาดใหญ่อยู่หน้าตัวเมือง ยังมีสถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์หลายแห่งที่น่าสนใจด้วยค่ะ เราพักกันที่โรงแรมหน้า Aristotelous Square ซึ่งเป็นลานขนาดกว้างอยู่ในตัวเมือง ทำเลดีมากเพราะใกล้กับร้านอาหาร บาร์ ถนน Tsimiski ซึ่งมีร้านค้าหลายร้าน เป็นถนนช้อปปิ้งสายหลัก หน้าโรงแรมมองเห็นทะเลและทางเดินเท้า ทางจักรยาน สำหรับนักท่องเที่ยวและชาวกรีก ไว้เดินเล่นกัน หลังเช็คอินแล้วเราสองคนต้องออกเดินเที่ยวชมเมืองกันทันที อากาศร้อนหน่อยแต่หน้าร้อนอากาศก็เป็นแบบนี้ คล้ายเมืองไทยค่ะ จุดแรกที่เราเดินไปสำรวจชมกันคือ White Tower ซึ่งเป็นหอคอย สัญลักษณ์ประจำเมือง อยู่ริมทะเลของเมือง Thessaloniki
(ภาพ ด้านบน) หอคอย White Tower ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหอคอย ป้อมปราการของเมืองในอดีต เคยใช้เป็นสถานที่ฝึกทหาร และเรือนจำ ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ให้คนทั่วไปเข้าชมได้ มีพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์อยู่ข้างใน
(ภาพ ด้านบน) โรงแรมที่พัก Electra Palace อยู่หน้าลาน Aristotelous Square บริเวณใกล้ๆ เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ ถนนสำหรับช้อปปิ้ง สะดวกมากที่เดียวค่ะ เพราะไม่ต้องนั่งรถไปที่ต่างๆ ลานนี้เดินติดต่อกันได้หมด
(ภาพ ด้านบน) ทะเลหน้าเมือง Thessaloniki มีทางเดินเท้า ทางจักรยานให้คนสัญจรใข้กัน ตอนกลางคืนเดินเล่นสบาย มีคนออกมาเยอะมาก ติดกับถนนหน้าทะเล ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ทอดยาวไปถึงหอคอยไวท์เทาเวอร์
(ภาพ ด้านบน) คนสัญจรไปมา มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวกรีก ออกมานั่งรับประทานกาแฟกันช่วงบ่าย ตอนนี้ก็มีมาทานอาหารกัน หรือนั่งเล่นที่ลาน Aristotelous Square มีคนมาเล่นดนตรีสไตล์กรีกให้ฟังกันด้วยนะคะ
(ภาพด้านบน) ลาน Aristotelous Square ถ่ายจากระเบียงชั้นดาดฟ้าของโรงแรมที่เราสองคนพักกัน เห็นวิวทะเลสวย และร้านอาหารที่อยู่รายรอบ
(ภาพ ด้านบน) Rotunda (หรือ Rotonda) เป็นโบสถ์เก่าแก่สมัยโบราณถูกสร้างขึ้นประมาณช่วง คศ. 300 โดยกาเลเรียสซีซาร์ Galerius Ceasar ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ช่วงปี คศ. 1590 ถูกใช้เป็นสุเหร่า เพราะเมืองเทสสะโลนิกิ ตกอยู่ใต้อำนาจของสุลต่านมูราด แต่ต่อมาเมืองอาณาจักรออตโตมานสลายลง ก็กลับมาเป็นโบสถ์คริสเตียนดังเดิม ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองไม่ไกลจากหอคอยไวท์เทาว์เวอร์ เดินถึงกันได้ค่ะ
(ภาพ ด้านบน) ประตูหินรูปโค้ง Arch of Galerious ตั้งอยู่มุมของถนน Egnatia และถนน Dimitrios Gounari Street ถูกสร้างขึ้นในปี คศ. 298 เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของกาลเรียสซีซาร์ที่มีชัยชนะในการทำสงครามกับพวก เปอร์เซีย เสาตั้งนั้นมีลวดลายแกะสลักสวยงาม
(ภาพด้านบน) รายละเอียดของเสาตั้ง Arch of Galerious บอกเรื่องราวของชาวกรึก การทำสงคราม และการฉลองชัยชนะ น่าสนใจทีเดียวค่ะ
(ภาพ ด้านบน) โบสถ์ Agia Sophia เป็นสถานที่สำคัญอีกที่หนึ่งที่อยู่ในตัวเมือง มีสถาปัตยกรรมแบบ Byzantine ข้างในมีรายละเอียดการใช้หินตกแต่งอย่างสวยงาม มีประวัติศาสตร์ยาวนานควบคู่กับเมืองเทสสะโลนิกิ
(ภาพ ด้านบน) พิพิธภัณฑ์ด้านโบราณสถาน โบราณวัตถุ Archaeological Museum of Thessaloniki ซึ่งมีหลักฐานสำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์มากมายบอกถึงความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรืองของชาวกรึกในอดึต รูปแกะสลัก เสาประตู เครื่องใช้จานชาม เครื่องประดับ ฯลฯ ที่นักโบราณคดีค้นพบในบริเวณนี้
(ภาพ ด้านบน) ป้ายข้างในพิพิธภัณฑ์ Archaeological Museum of Thessaloniki เมืองเทสสะโลนิกิเป็นดินแดนที่สะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของแคว้นมาซิโดเนีย ปัจจุบันมาซิโดเนียแยกออกไปเป็นประเทศอิสระจากกรึซค่ะ
(ภาพ ด้านบน) พิพิธภัณฑ์บิเซนทีน Museum of Byzantine Culture เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนความเป็นมา วัฒนธรรมในรูปแบบบิเซนทีน เป็นความเจริญรุ่งเรืองของกรีกต่อจากชาวโรมัน มีศิลปะคล้ายโรมันหลายอย่าง และรวมทั้งผสมสไตล์เปอร์เซียด้วย ที่เด่นก็คงจะเป็นภาพวาดที่ใช้สีทอง สีเข้มๆ แบบสะท้อนแสง เครื่องเงิน เครื่องใช้มีลวดลายแกะสลัก วาดรูป แบบสวยงามค่ะ
(ภาพ ด้านบน) ร้านขายขนมหวานของกรีก ชื่อร้าน Elenidis ขึ้นชื่อเรื่องทำขนมกรวยกรอบ ใส่ครีม ตั้งอยู่ในตัวเมือง จุดเชื่อมระหว่างถนน Tsimiski และถนน D Gounari มีไอศครีมขายด้วยนะคะ อยู่ใกล้ๆ กับหอคอยไวท์เทาเวอร์ และถนนช้อปปิ้ง มีนักท่องเที่ยวผ่านไปมาแวะซื้อขนมกันเยอะทีเดียว
(ภาพ ด้านบน) ขนม Trigona ของหวานสไตล์กรีก เป็นกรวยกรอบ หวานเคลือบน้ำตาล ใส่ครีมนมรสหวานแบบเข้มข้น ทานชิ้นเดียวอิ่มไปหลายชั่วโมงเลยค่ะ เราแวะเติมกำลังกันหน่อยเพราะเดินเที่ยวทั้งวัน เหนื่อยแต่สนุกนะคะ
(ภาพ ด้านบน) ร้านอาหาร Zythos ร้านนี้คนเยอะตลอด เป็นร้านสไตล์กรีกรสชาดดี อาหารอร่อยค่ะ บรรยากาสโรแมนติกด้วย อยู่ในย่าน Ladadika ซึ่งเป็นย่านที่มีร้านอาหาร บาร์ ตั้งอยู่มากมาย มีคนมาเล่นดนตรีกรีกบนถนนมาให้ฟังกันเพลินๆ อีกด้วย
(ภาพ ด้านบน) สลัดสไตล์กรีกค่ะ ส่วนผสมหลักๆ มี ชีส Feta หัวหอม พริกหวาน ลูกมะกอก มะเขือเทศ แตงกวา ลูกเคเปอร์ ใส่ใบออเรกาโนนิดๆ ด้วยค่ะ ราดน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชู อร่อยชื่นใจค่ะ
(ภาพ ด้านบน) Pilaf Rice ข้าวผัดสไตล์กรีก ใส่เนื้อ พริกไทยนิดหน่อยด้วย ไม่ใส่ผักค่ะ จานนี้คล้ายข้าวผัดไก่บ้านเรานะคะ รสชาติถึงใจไม่แพ้กัน เราปิดท้ายกันโดยร้านอาหารซีโตสสำหรับมื้อค่ำ เที่ยวสนุกก็ขอทานอร่อยหน่อยค่ะ
(ภาพด้านบน) น้ำพุที่อยู่ใกล้หอคอย White Tower ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยดี เลยถ่ายรูปมาให้ชมกัน
ทะเล ในกรีซสวยมากต้องยอมรับ สีฟ้าเข้ม คนที่นี่ทานอาหารกันเยอะมากค่ะ แต่ละร้านอาหารที่เราแวะไปทานมาเสิร์ฟมื้อใหญ่ ทานกันไม่หวาดไม่ไหว แม้สามีเป็นชาวอิตาเลี่ยน ทานค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ยังบอกกว่าทานแบบกรีกไม่ไหว หนักไปหน่อย เพราะตอนเช้าเราทานบุฟเฟท์อาหารเช้าของโรงแรม ตอนเที่ยงเลยทานน้อย แล้วค่อยไปทานมื้อใหญ่ตอนเย็น ไว้บล็อกหน้าจะคุยกันต่อเรื่องอาหารสไตล์กรีกค่ะ ดิฉันชอบลองอาหารใหม่ๆ สไตล์กรีกน่าสนใจมาก
จอมณรงธร (ตี๋)
ประธานชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2555-56
กลุ่ม "รวมบาป"
11 ตุลาคม 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น