ข้อมูลจาก nangdee.com
Guillermo del Toro (กิเยรฺโม่ เดล โต๊โหระ) ชาวเม็กซิกัน (Méxicano - พูดภาษาสเปน) สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับความชื่นชม มากที่สุดและเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด ด้วยผลงานภาพยนตร์ภาษาสเปนของเขาเรื่อง Pan’s Labyrinth ทำให้มีคนลุกขึ้นยืนตบมือในการฉายรอบปฐมทัศน์ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมือง คานส์ในปี 2006 นานถึง 25 นาที และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 6 รางวัล และคว้ามาได้ 3 รางวัลด้วยกัน และได้รับรางวัลจากเวทีอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่อุทิศตัวให้กับงานสร้างภาพยนตร์สยองขวัญแนว โกธิค หลังจากสร้างผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Cronos และสร้างผลงานชิ้นต่อมาเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Mimic ที่ทั้งกำกับและร่วมเขียนบทให้กับไดเมนชั่น ฟิล์มส์ จากนั้น เขาได้กลับไปทำภาพยนตร์ภาษาสเปนที่พูดถึงสงครามกลางเมืองของสเปน เรื่อง The Devil’s Backbone ในปี 2004 หลังจากเสร็จสิ้นจากงานสร้างภาพยนตร์แวมไพร์ของค่ายนิวไลน์ เรื่อง Blade II ที่นำแสดงโดยเวสลี่ย์ สไนป์ส และคริส คริสทอฟเฟอร์สัน เดล โทโร่ได้เริ่มต้นงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง Hellboy ให้กับเรฟโวลูชั่น สตูดิโอส์
1.Cronos ในปีค.ศ. 1535 นักเล่นแร่แปรธาตุแห่ง Veracruz (รัฐหนึ่งในประเทศเม็กซิโก) พัฒนากลไกที่ทำให้มีชีวิตนิรันดร์ ต่อมาในปี 1937 อาคารเก่าได้ทรุดตัวลง นักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นตาย โดยหัวใจเขาถูกแทงด้วยเศษซากปรักหักพัง ไม่เคยมีการเปิดเผยสิ่งที่ถูกค้นพบในอาคาร อ่างเต็มไปด้วยเลือดจากศพ วันหนึ่ง คนขายของโบราณเจอโพรงที่ฐานของรูปปั้นเทวทูต เขาพบอุปกรณ์บางอย่างที่มีรูปทรงเหมือนแมลงปีกแข็งสีทองดูหรูหรา และลองเปิดมันดู เข็มของมันจับเขาแน่นและแทงลงไปในผิวหนังของเขา และนั่นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง
2.Mimic นักกีฏวิทยา (ศึกษาเกี่ยวกับแมลง) ได้คิดค้นแมลงสาบพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า "จูดาส" ขึ้นมาเพื่อกวาดล้างไล่ฆ่าแมลงสาบตัวอื่นๆ ให้หมดไปจากเมือง (เพราะในขณะนั้นแมลงสาบพันธุ์ธรรมดากำลังเป็นพาหะนำโรคที่เป็นแล้วตายสถานเดียว) และตามทฤษฎี จูดาสจะตายไปเองภายในไม่กี่เดือน ...แต่แล้ว 3 ปีผ่านไป นอกจากแมลงเหล่านั้นจะไม่ตายแล้ว มันยังกลายพันธุ์เป็นแมงยักษ์ไล่ฆ่าคน ทำให้เธอต้องกลับมาอีกครั้งเพื่อค้นหาความจริงว่าทำไมมันยังไม่ตาย
3.Blade II สร้างจากหนังสือการ์ตูนของมาร์เวล มาเป็นภาพยนต์ภาคต่อแนวทริลเลอร์ระดับบล็อกมาสเตอร์ เบลดลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ ถูกเผาให้ร้อนด้วยความแค้นจากคำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและช่วยชีวิตเผ่าพันธุ์มนุษย์จากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยเลือด ภาคต่อนี้ เบลดถูกสถานการณ์บังคับให้ร่วมทีมกับเหล่าแวมไพร์ที่เค้าเกลียด เพื่อเอาชนะอสูรกายพันธุ์ใหม่ที่ขู่ว่าจะกำจัดทั้งมนุษย์และแวมไพร์ อีกครั้งที่เขาจะพาเราไปยังโลกใต้ดิน ที่ซึ่งเหล่าแวมไพร์ปกครองอยู่ ใช้ทุนในการสร้าง 55 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทำรายได้ทั่วโลกประมาณ 155 ล้านเหรียญ
4.Hellboy (ทั้ง 2 ภาค) ปีศาจจากนรกได้ถือกำเนิดมาภายใต้ความวุ่นวายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เหตุการณ์ทุกอย่างทำท่าว่าจะลงตัวไปในทางที่ดี หากฝ่ายนาซีไม่พยายามใช้มนต์ดำเพื่อช่วยเหลือพรรคพวกของตน ฝ่ายพันธมิตรพยายามขับไล่ความอยุติธรรม โดยได้รับการช่วยเหลืออย่างลับๆ จากเจ้ายักษ์เขาหัก Hellboy ที่เติบโตขึ้นมา และรับใช้ฝ่ายดีมากกว่าจะฝักใฝ่อำนาจชั่วร้าย อย่างชื่อของเขา
ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดนิยมของไมค์ มิกโนล่า เขาถือกำเนิดมาจากเปลวเพลิงในนรก และขึ้นมาสู่พื้นโลกโดยพิธีกรรมนอกรีต โดยการช่วยเหลือของเพื่อนและดร.บรูม ผู้มีเมตตากับเขามาตลอด เขาได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในสำนักงานวิจัยและป้องกันอำนาจเหนือธรรมชาติ อำนาจของบรรดาฮีโร่เหล่านี้เป็นทั้งพรประทาน และคำสาป พวกเขาพบว่า อำนาจเหล่านั้นสามารถพิทักษ์มวลมนุษย์ได้ แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวจากการถูกทอดทิ้งจากสังคมที่พวกเขากำลังปกป้อง ภาค 1 ทำเิงิน 99 ล้านเหรียญ โดยใช้ทุนในการสร้าง 66 ล้านเหรียญ ภาค 2 (The Golden Army) ทำเงิน 160 ล้าน จากต้นทุน 85 ล้าน
5.Pan's labyrinth (El laberinto del fauno) ในปี 1944 ประเทศสเปนในยุคฟาสซิสต์ โอฟิเลีย สาวน้อยที่ต้องเดินทางไปกับแม่ที่ท้องแก่ เพื่อไปอยู่กับพ่อเลี้ยงที่เป็นผู้กองผู้โหดเหี้ยมแห่งกองกำลังทหารของสเปน เธอได้พบกับนางฟ้าที่พาเธอไปยังเขาวงกต ที่นั่นเธอได้พบกับเทพารักษ์ตนหนึ่ง (Pan) มันบอกว่าเธอคือเจ้าหญิง แต่เธอต้องปฎิบัติภารกิจอันแสนน่ากลัวให้ลุล่วง ถ้าเธอทำไม่สำเร็จ เธอก็จะไม่ผ่านการพิสูจน์ความเป็นเจ้าหญิงแห่งเมืองลี้ลับนั่นอย่างแท้จริง และจะไม่สามารถพบกับพ่อที่แท้จริงของเธอ (ซึ่งเป็นพระราชา) ได้ หนังทำเงิน 83 ล้านเหรียญ จากต้นทุนเพียง 19 ล้านเหรียญ
6.The Devil’s Backbone (El espinazo del diablo) ในช่วงยุค 1939 เกิดสงครามกลางเมืองในสเปน สามปีให้หลัง บ้านเมืองเริ่มสงบลง สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า หนึ่งในสถานที่ที่เคยถูกโจมตีด้วยระเบิดขนาดใหญ่มาแล้ว แต่มันด้าน ไม่ระเบิด และที่สำคัญ ระเบิดดังกล่าว ยังปักเป็นอนุสรณ์สถานอยู่ในที่แห่งนี้ จนเด็กชายคนหนึ่งจำต้องมาอยู่ในสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับที่นี่ จนวันหนึ่ง ผีเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ผู้ถูกฆ่าจากบุคคลภายในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ ต้องการชำระแค้นที่เกิดขึ้นในคืนแห่งสงคราม มาปรากฏกายให้เขาเห็น
Alejandro Fernando Amenábar Cantos (อาเลฆ๊านโดร เฟรฺนั้นโดะ อาเมน๊าบาร์ กันโตส) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ , เขียนบทและนักแต่งเพลง เกิดในซันติอาโก ประเทศชิลี แม่เป็นชาวสเปน (Española) ส่วนพ่อเป็นชิลี (Chileno) ครอบครัวเขาย้ายไปสเปนหลังจากที่เขาเกิดหนึ่งปี เขาเรียนการทำภาพยนตร์ที่ Complutense Universidad ในกรุงมาดริด แต่ในที่สุดก็ออกมา กำกับภาพยนตร์ของตนเอง
7.Open your eyes (Abre los ojos) ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งหล่อ รวย มีชื่อเสียง ชีวิตเขามีทุกอย่างที่ต้องการ แต่เขายังขาดสิ่งหนึ่งคือ " รักแท้ " วันหนึ่งเขาได้รู้จักผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ทำงาน 3-4 อย่างต่อวัน มั่นใจในตัวเอง ร่าเริง สดใส ฉลาด ยิ่งได้คุยด้วยกันและเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของเธอ เขาบอกกับตัวเองได้เลยว่า นี่คือความรักที่เขาตามหาอยู่ และแน่นอนเธอเป็นผู้หญิงที่เขาเฝ้ารอมานาน แต่ยังมีหญิงสาวอีก 1 คน ที่ไม่เป็นที่ต้องการของเขา แต่เธอไม่ได้คิดเพียงแค่นั้นเพราะเธอได้มอบความรักให้แก่เขาไปหมดแล้ว จึงเป็นต้นเหตุให้เธอต้องการฆ่าตัวตายไปพร้อมกับเขา แต่เขากลับรอดมาได้ และต้องเสียโฉมชนิดที่รับไม่ได้
8.The Sea Inside (Mar adentro) เป็นภาพยนตร์จากประเทศสเปน ที่ได้รับรางวัลทั้งจากงานตุ๊กตาทองและลูกโลกทองคำในปี 2004 สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม สร้างจากเรื่องจริงของชายชาวสเปนคนหนึ่งชื่อ Ramon Sampedro (รามอน ซัมเปโดร) หลังจากประสบอุบัติเหตุกระโดดน้ำลงไปศีรษะกระแทกพื้น แล้วต้องเป็นอัมพาตเกือบทั้งตัว สามารถใช้งานได้เฉพาะใบหน้าเท่านั้น ก็ต้องอยู่ในความดูแลของครอบครัวที่มี พ่อ พี่ชาย พี่สะใภ้และหลานชายในเขตชนบทของสเปน เขาต้องการจะจบชีวิตตนเองอย่างสมศักดิ์ศรี โดยไม่อยากเป็นภาระให้ใคร แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากกฏหมายไม่เปิดช่องทางให้ตลอด 30 ปีกว่าปี จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของคนนอกครอบครัวที่เข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากเห็นข่าวของเขาในโทรทัศน์ หนังทำรายได้ 38 ล้านเหรียญจากต้นทุนเพียง 10 ล้านเหรียญ ข้อมูลโดย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
9.The Others (Los otros) เกาะชาเนล ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศอังกฤษกับฝรั่งเศส ในปี 1945 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีคฤหาสถ์เก่าแก่หลังใหญ่อยู่หลังหนึ่ง เจ้าของเป็นหญิงสาวอาศัยอยู่ที่นี่พร้อมกับลูกสาวและลูกชายตามลำพัง โดยที่สามีของเธอไปรบในสงครามนานกว่าปีแล้วและไม่มีข่าวคราวใด ๆ ส่งมา วันหนึ่ง หมอกลงจัด มีคนแปลกหน้า 3 คนมาขอสมัครทำงานบ้านที่นี่ เธอรับเอาไว้ และบอกกล่าวถึงจุดต่าง ๆ ในบ้าน โดยต้องปิดหน้าต่างและม่านให้มืดสนิทที่สุด เพราะลูกของเธอทั้ง 2 เป็นโรคแพ้แสงแดดอย่างรุนแรง แสงสว่างในบ้านจึงมาจากตะเกียงเท่านั้น และตัวเธอเองไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกมานานแล้ว ต่อมาไม่นาน ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นภายในบ้าน เช่น เปียโนบรรเลงโดยไม่มีคนเล่น, ประตูหรือผ้าม่านเปิดปิดได้เอง , มีเสียงคนแปลก ๆ บนชั้นบนของบ้าน หรือลูกของเธออ้างว่า เห็นคนอื่นปรากฏตัวในบ้านด้วย เธอพยายามที่จะไม่เชื่อและคาดคั้นเอากับคนรับใช้ทั้ง 3 แต่หนึ่งในนั้น กลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรและบอกว่า พวกตนเคยมาทำงานที่นี่ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่เกรซและลูก ๆ จะรู้ความจริงที่น่าหวาดผวาจากคนรับใช้เหล่านี้
10.Agora อียิปต์ ศตวรรษที่ 4 ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน… ความขัดแย้งทางศาสนาคุกรุ่นไปทั่วท้องถนนจนถึงห้องสมุดที่มีชื่อเสียงของ เมืองอเล็กซานเดรีย นักดาราศาสตร์หญิงผู้ชาญฉลาด ไฮพาเทีย และบรรดาสานุศิษย์ของเธอ ต้องต่อสู้เพื่อรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาแห่งโลกโบราณ… ท่ามกลางเหล่าบุรุษผู้อยู่เคียงข้าง ไฮพาเทียเป็นที่หมายปองของสองชายผู้แก่งแย่งแข่งขันกันเพื่อเป็นเจ้าหัวใจของเธอ หนึ่งคือออเรสทิส ผู้สูงศักดิ์ อีกหนึ่งคือเดวุส ทาสหนุ่มผู้ต้องเลือกระหว่างความรักและอิสรภาพ
จอมณรงธร (ตี๋)
ประธานชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2555-56
กลุ่ม "รวมบาป"
13 พฤศจิกายน 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น