วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

โดย ยงยุทธ สังขโกวิท
 


การ แข่งขันฟุตบอลโลก Brazil 2014 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน–13 กรกฎาคม 2014 นับว่าเป็นที่สนใจสำหรับแฟนกีฬาฟุตบอลทั่วโลก ผมถือโอกาสนี้รวบรวม ค้นคว้าจากหลักฐานที่เชื่อถือได้ มาเสนอให้ท่านที่สนใจได้ติดตาม รวมทั้งอาจจะมีบางอย่างเพิ่มเติม แก้ไข เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับอนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ ลองติดตามดูนะครับ
  

การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกมีที่เมือง Montevideo, Uruguay ระหว่าง วันที่ 13 – 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1930 มี 13 ชาติ เข้าร่วมการแข่งขัน ทีมชาติอุรุกวัย เป็นผู้ชนะเลิศ ติดตามด้วยทีมชาติอาร์เจนติน่า ส่วนในตำแหน่งที่ 3 (ระหว่างทีมชาติสหรัฐอเมริกา กับยูโกสลาเวีย ซึ่งแพ้ในรอบ semi-final) ไม่มีการแข่งขัน ทาง FIFA ตัดสินจากผลของการแข่งขันที่ผ่านมา ให้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ได้รับตำแหน่งที่ 3 และ ทีมชาติยูโกสลาเวีย ครองตำแหน่งที่ 4
 

การแข่งขันฟุตบอลโลกมีติดต่อมาทุก 4 ปี ยกเว้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปี ค.ศ. 1942 และ 1946) หมุนเวียนไปตามทวีปต่างๆ รวมทั้งทวีปเอเซีย 1 ครั้ง เป็นการจัดร่วมของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น South Korea & Japan 2022 นับว่าเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย ที่มีสองชาติร่วมกันจัดการแข่งขัน และมีขึ้นในเขตทวีปเอเซีย จนกว่าจะมีอีกครั้ง ที่ Qatar ในปี ค.ศ. 2022 จำนวนทีมชาติที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้าย เริ่มต้นในปีแรก Uruguay 1930 จำนวน 13 ชาติ และเพิ่มขึ้นเป็น 16 ชาติ ในการแข่งขันที่ Italy 1934 จนถึง Argentina 1978

 
ในการแข่งขันที่ประเทศสเปน 1982 เพิ่มจำนวนเป็น 24 ชาติ ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 32 ชาติ ในการแข่งขันที่ประเทศฝรั่งเศส 1998 จนถึงปัจจุบัน ตามข่าวระบุว่า เนื่องจากกีฬาฟุตบอลเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น จำนวนทีมชาติที่เข้าร่วมบอลโลกรอบสุดท้าย อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ชาติในอนาคต ปัจจุบัมี 76 ชาติที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน “บอลโลก” ในรอบสุดท้าย อย่างน้อย 1 ครั้ง ประเทศบราซิลเป็นเพียงชาติเดียวที่ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันทุกรายการตั้งแต่เริ่ม รวมทั้งได้ครองความเป็นเลิศ 5 ครั้ง มากกว่าทุกชาติ

 
ประเทศสหรัฐอเมริกา มีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันบอลโลก 1 ครั้ง ใน United States 1994 ผ่านเข้าเล่นในรอบ 16 ทีม ต้องตัดเชือก และแพ้ทีมชาติบราซิล 1 : 0 ทีมชาติบราซิลเป็นทีมชนะเลิศในครั้งนั้น นับได้ว่าเป็นความสำเร็จของสหรัฐอเมริกา จากจำนวนผู้ชมมากกว่า 3.5 ล้านคน (average 68,991/game) มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

 
นับ ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรก ปี ค.ศ. 1930 จนถึงในปัจจุบัน ประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันเป็นผู้ชนะเลิศ รวม 6 ครั้ง ประกอบด้วย Uruguay 1930, Italy 1934, England 1966, West Germany 1974, Argentina 1978, & France 1998 มีหลายคนตั้งความหวังว่า ทีมชาติบราซิล คงจะได้ถูกระบุไว้ในการแข่งขัน Brazil 2014 วันและเวลาคงจะได้พิสูจน์


ถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก


 
 

ระหว่าง การแข่งขัน ปี ค.ศ. 1930 -1970 ทีมชนะเลิศได้รับถ้วยบอลโลก World Cup - Coupe du Monde ในปี ค.ศ. 1946 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Jules Rimet เป็นเกียรติให้กับ FIFA President ผู้ริเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลก มีกำนดให้เป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของทีมชาติที่ได้รับชัยชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในปี ค.ศ. 1970 ทีมชาติบราซิล ได้รับสิทธิ ครองถ้วยนี้อย่างถาวร ตามข่าว ถ้วยดังกล่าวสูญหายเนื่องจากการโจรกรรมในปี ค.ศ. 1983


 
หลังจากปี ค.ศ. 1970 ถ้วยฟุตบอลโลกได้สร้างขึ้นใหม่ โดยผู้ออกแบบชาวอิตาลี ชื่อ Silvio Gazzaniga โดยกำหนดความสูง 36 ซม. (14.2 นิ้ว), solid 18 carat (75%) เนื้อทองคำ, น้ำหนัก 6.175 กก. (13.6 lbs.) และไม่ให้มีการครองถ้วยบอลโลกแบบถาวร 

 
 ก่อนการแข่งขันบอลโลก Argentina 1978 เหรียญรางวัล (ทอง, เงิน และทองแดง) มอบให้เฉพาะผู้เล่น 11 คน ที่อยู่ในทีมเมื่อจบการแข่งขัน จนถึงเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ 2007 FIFA เสนอมอบเหรียญให้กับนักฟุตบอลในทีมทุกคน รวมทั้งทีมฟุตบอลโลกที่มีอันดับที่หนึ่ง รองชนะเลิศ และอันดับที่ 3 ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน ปี ค.ศ.1930 - 1974 เป็นผลให้ Pele (Brazil) เป็นนักฟุตบอลคนเดียวที่ได้รับเหรียญทองชนะเลิศบอลโลก 3 ครั้ง (1958, 1962 และ 1970) แม้ว่าจะไม่ได้ลงแข่งขันรอบสุดท้ายในปี ค.ศ. 1962 อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บ ส่วนในปี ค.ศ. 2002 FIFA ได้มอบเหรียญอันดับที่ 4 ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันร่วมในครั้งนั้น ด้วย

 

สถิติผู้ทำประตูบอลโลกสูงสุด 5 ราย
Brazil’s Ronaldo 15 Goals (1998-2006) ลงแข่ง 19 นัด
Germany’s Miroslav Klose 14 Goals (2002-2010) ลงแข่ง 19 นัด (still active)
W. Germany’s Gerd Muller 14 Goals (1970-1974) ลงแข่ง 13 นัด
France’s Just Fontaine 13 Goals (1958) ลงแข่ง 6 นัด
Brazil’s Pele 12 Goals (1958-1970) ลงแข่ง14 นัด

ในการแข่งขันครั้งสุดท้าย South Africa 2010 มี 32 ขาติ เข้าร่วม ในจำนวน 64 นัด สามารถทำประตูได้ 145 ประตู ทีมชาติสเปน เป็นผู้ชนะเลิศ โดยเอาชนะ ทีมชาติ Netherlands ในช่วงต่อเวลา 1 : 0 
 

การแลกเปลี่ยนเสื้อทีมฟุตบอลหลังจากจบการแข่งขัน มีขึ้นครั้งแรกในวันที่ 14 พฤษภาคม 1931 เป็นการแข่งขันแบบมิตรภาพระหว่างทีมชาติอังกฤษกับทีมชาติฝรั่งเศส ที่สนาม State Olympique, City of Colombes, France โดย ทีมชาติฝรั่งเศส เป็นผู้ขอร้องให้มีการแลกเปลี่ยนเสื้อกับ ทีมชาติอังกฤษ ทั้งทีม นับว่าเป็นการเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยนเสื้อทีมหลังการแข่งขัน 
ในการแข่งขันบอลโลก Mexico 1970 ระหว่าง ทีมชาติอังกฤษ กับ ทีมชาติบราซิล จัดว่าเป็นการแข่งขันบอลโลกที่ยอดเยี่ยมครั้งหนึ่ง เมื่อการแข่งขันจบลง Pele (บราซิล) และ Bobby Moore (อังกฤษ) ซึ่งนับว่าเป็นนักฟุตบอลที่โด่งดัง เป็นที่รู้จักกันทั่วไป มุ่งหน้าเข้าหากันกลางสนาม พูดจากันชั่วขณะ ก่อนที่จะแยกออกจากกัน ทั้งสองคนต่างถอดเสื้อทีมชุดลงแข่งแลกเปลี่ยนกัน เป็นที่ประทับใจให้กับทุกคนที่เห็น และยอมรับเป็นแบบฉบับตั้งแต่นั้นมา 



Únete al grupo de Facebook "Club de las lenguas occidentales de la Universidad de Ramkhamhaeng" al https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

จอมณรงธร (ตี๋)
     สมาชิกชมรมภาษาตะวันตก
    ปีการศึกษา 2557-58
     กลุ่ม "Fanclub FS"
    7 มิถุนายน 2014




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น