ข้อมูลโดย ryt9.com
El Salvador
เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มประเทศอเมริกากลาง มีพื้นที่ประมาณ 21,041 ตารางกิโลเมตร เกือบเท่ากับขนาดพื้นที่ของประเทศอิสราเอล แต่ขนาดของเศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในกลุ่มประเทศในอเมริกากลาง และมีรายได้ต่อหัวในระดับประมาณสองส่วนสามของรายได้ต่อหัวของประเทศ คอสตาริกาและปานามา หรือสองเท่าของรายได้ต่อหัวของประเทศนิคารากัว
รัฐบาลของเอลซาวาดอร์มีนโยบายแผนงานส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยจะส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นศูนย์กลางการจำหน่าย สินค้าและโลจิสติกสำหรับภูมิภาคอเมริกากลาง โดยได้มีการเปิดเสรีรับการลงทุนจากภาคเอกชน และจากต่างประเทศ ในภาคการสื่อสาร การบริการสาธารณูปโภคการไฟฟ้า ธุรกิจการเงิน และภาคการกองทุนบำนาญ
การท่องเที่ยวของเอลซัลวาดอร์ได้เติบโตอย่างรวดเร็วในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในปี ค.ศ.2010 มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 4.6 ของรายได้ประชาชาติ และได้มีการขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.5 ในปีนั้น ได้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.97 เป็นจำนวน 1.27 ล้านคนจาก 1.15 ล้านคนในปีก่อน
ข้อมูลเศรษฐกิจพื้นฐาน
งบประมาณรัฐบาลมีรายรับในปี ค.ศ. 2009 มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญฯ และรายจ่าย 4.8 พันล้านเหรียญฯ หนี้ของภาครัฐมีสัดส่วนร้อยละ 52.3 ของรายได้รวมประชาชาติ มูลค่าของหนี้รวม 10.62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เงินสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 2.9 พันล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์ได้ปรับใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสกุลประจำประเทศตั้ง แต่ปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมา

สินค้าส่งออกหลักของประเทศ ได้แก่ กาแฟ น้ำตาล สิ่งทอ สำหรับสินค้านำเข้าหลักได้แก่ เคมีภัณฑ์ อาหารแปรรูป เครื่องจักร และปิโตรเลียม
ท่าเรือที่สำคัญของเอลซัลวาดอร์ ได้แก่ ท่าเรือ Acajutla และท่า Puerto Cutuco ซึ่งเป็นท่าเรือฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยประเทศไม่มีทางออกในทางฝั่งมหาสมุทรแอ็ทแลนติก
การเมืองและประวัติศาสตร์
ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้รับเอกราชจากประเทศสเปนเมื่อปี ค.ศ. 1821
มีการเลือกสมาชิกรัฐสภาใหม่ทุกๆ 3 ปี เอลซัลวาดอร์ประสบกับปัญหาด้านความมั่งคงทางการเมืองเป็นระยะเวลานานมาก โดยได้มีสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อเป็นเวลา 12 ปี ระหว่างปี
ค.ศ. 1980-1992
เป็นการสู้รบระหว่างอำนาจฝ่ายขวาที่เป็นรัฐบาลมาแต่ดั้งเดิมซึ่งได้
รับเงินช่วยเหลือจากประเทศสหรัฐฯ กับตัวแทนกลุ่มฝ่ายซ้ายต่าง ๆ
ซึ่งต่อมาได้รวมตัวกันเป็นพรรค FMLN
สงครามกลางเมืองดังกล่าวได้ยุติลงโดยความตกลงยุติสงครามระหว่างสองฝ่าย
ที่มีการลงนามยุติสงครามในวิหาร Chapultapec ในกรุงเม็กซิโก
ประเทศเม็กซิโก
การค้าระหว่างเอลซาวาดอร์กับประเทศไทย
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
14 มีนาคม 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น