วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

ออนดูรัส ประเทศแห่งป่าเขตร้อนในอเมริกากลาง

ข้อมูลโดย hoteltravel.com และ energysavingmedia.com
Honduras
 

สาธารณรัฐฮอนดูรัสตั้งอยู่บริเวณทวีปอเมริกากลาง ชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศทอดยาวริมทะเลแคริบเบียน ส่วนชายฝั่งทางใต้ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เมืองหลวงของฮอนดูรัสคือ กรุงเตกูชิกัลปา เป็นเมืองที่สะท้อนประวัติศาสตร์ในยุคอาณานิคมได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวอีกด้วย เมื่อเดินทางมาฮอนดูรัสแล้ว คุณไม่ควรพลาดการเดินทางไปเยี่ยมชมเขตอนุรักษ์ชีวภาพรีโอ ปลาตาโน ผืนป่าฝนเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง ซึ่งประกอบไปด้วยชายหาดขาวสะอาดและป่าเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่น่าสนใจมากมาย อาทินกเงือก และรวมถึงสัตว์อื่นๆ ที่มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้พบกับศิลปะสมัยพรีโคลัมเบียในเมืองโคปันซึ่ง อดีตเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรมายาอันยิ่งใหญ่อีกด้วย

ประวัติศาสตร์
ฮอนดูรัส เดิมเป็นที่อาศัยอยู่ของชนพื้นเมืองหลายเผ่า เช่น Lenas, Maya, Miskito, Pech, Sumo และ Tol ฮอนดูรัสและหมู่เกาะเบย์ ถูกพบในปี 1502 โดย Christopher Columbus จากนั้นในปี 1524 ชาวสเปนภายใต้การนำของ Hernan Cortes ได้เข้ามาครอบครองประเทศ และทำให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพวกเขา คือ ราชอาณาจักรกัวเตมาลา อาณาจักร Miskito ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศประสบความสำเร็จในการต่อต้านการรุกรานของ สเปนด้วยการสนับสนุนจากชาติยุโรปและโจรสลัด จนฮอนดูรัสได้รับเอกราชจากสเปนในปี 1821 แต่ยังต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของเม็กซิโกเป็นครั้งคราว จนกระทั่งได้กลายเป็นสาธารณรัฐในที่สุดเมื่อปี 1838


 
 สภาพอากาศ
ฮอนดูรัส มีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปตามสามภูมิภาคของประเทศ พื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลแคริบเบียนจะมีอากาศเขตร้อนชื้น ที่มีระดับของความชื้นสูงและฝนตกบ่อย ขณะที่ตอนกลางภายในประเทศจะปกคลุมไปด้วยฤดูแล้งที่อุณหภูมิสามารถลดลงมากใน พื้นที่ของภูเขา ส่วนพื้นที่ตามแนวมหาสมุทรแปซิฟิกจะมีสภาพอากาศเขตร้อนที่มีฤดูกาลแล้งและ ฤดูฝน ในเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน


ปัจจุบัน กระแสการใช้พลังงานทดแทนกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก ล่าสุด ประเทศ ฮอนดูรัส ประเทศในแถบทะเลแคริเบียน ได้มีการประกาศก่อสร้างฟาร์มผลิตกระแสไฟฟ้าจากลมแห่งแรกในประเทศ จากคำแถลงการณ์ของบริษัท Iberdrola Engineering บริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างฟาร์มผลิตไฟฟ้าแห่งนี้ 
ฟาร์ม ดังกล่าวมีชื่อว่า Cerro de Hula Wind Farm ซึ่งเป็นของ บริษัท Mesoamerica Energy บริษัทที่ดำเนินการด้านโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั่วพื้นที่อเมริกากลาง จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 102 เมกะวัตต์  และจะก้าวขึ้นมาเป็นสถานที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากลมที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่อีก ด้วย 
โรง ไฟฟ้าดังกล่าวจะอยู่ห่างจาก Tegucigalpa เมืองหลวงของประเทศ ฮอนดูรัส  การเปิดฟาร์มแห่งนี้จะเป็นก้าวแรกในการพัฒนาและวิเคราะห์การใช้พลังงานลม เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั่วโลก 
โครงการ นี้ได้มีการติดตั้งเครื่องมือผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับประเทศที่ทันสมัย โดยมีรายงานว่า 36% ของประชาชนจำนวน 8 ล้านคน ยังใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีไฟฟ้าใช้งาน และด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โครงการด้านพลังงานทดแทนนี้ จะช่วยลดจำนวนพื้นที่ไร้กระแสไฟฟ้าลง และมีแผนที่จะกระจายกระแสไฟฟ้าไปยังพื้นที่ชนบทอีกด้วย
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
15 มีนาคม 2013 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น