Luka Megurine เป็น 1 ในตัวละครและโปรแกรม Vocaloid ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Zero G (Crypton) โดยใช้ชุดโปรแกรมที่พัฒนาโดยบริษัท Yamaha ซึ่งนำเสียงคนมาบันทึกไว้ทีละคำ และนำมาสร้างเป็นตัวละครในจินตนาการ ผู้ใช้สามารถนำมาทำเพลงเพื่อให้เกิดเสียงตามที่ต้องการได้
อีกเพลงจากการ์ตูนเรื่องเดียวกันชื่อ Dead end (สิ้นสุดความตาย) ร้องเป็นภาษาอังกฤษแปลไทย เนื้อหาเกี่ยวกับคำถามที่ว่า คุณจะยอมตายเพื่อใครไหม? หรือ จะฆ่าทุกคนได้หรือไม่? ถ้ามันจะทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงได้
เพลง No pain No game จากการ์ตูนเรื่อง BTooom! เป็นเรื่องราวของตัวเอกที่มีชีื่อเสียงจากการเล่นเกมออนไลน์ แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับถูกจับไปปล่อยไว้บนเกาะโดยได้รับระเบิดจำนวนหนึ่ง แล้วผู้คนบนเกาะต่างก็ใช้ระเบิดฆ่ากันเหมือนในเกม เพื่อทำให้ตัวเองมีชีิวิตรอด และได้ออกจากเกาะมรณะแห่งนี้ ฟังเพลงนี้ในรูปแบบภาษารัสเซียแปลไทยได้ที่วิดีโอด้านล่างนี้
เพลง In my world จากการ์ตูนเรื่อง Blue Exorcist เรื่องราวของเด็กฝาแฝดที่เกิดมาจากซาตานและมนุษย์ พร้อมกับพลังเหนือมนุษย์ แต่พวกเขากลับใช้พลังนั้นต่อสู้กับซาตาน ด้วยสำนึกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ไม่ใช่ซาตาน อยากฟังเพลงนี้เป็นภาษาโปรตุเกสแปลไทย คลิกวิดีโอด้านล่าง
ส่วนเพลงที่ 2 ชื่อ Color of the heart (สีสันของหัวใจ) เป็นเพลงภาษาสเปนแปลไทย เนื้อหาให้กำลังใจ โดยบอกว่า ถ้าชีวิตมันมืดมน ก็หาสีสันมาระบายให้สวยสิ หากอยากฟังคลิกวิดีโอด้านล่าง
การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง High school of the dead เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนมัธยมและอาจารย์แห่งหนึ่งต้องพยายามเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ซอมบี้ล้อมเมือง โดยไม่รู้ว่าอนาคตจะจบลงแบบใด ฟังเพลงเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ในการ์ตูนเรื่องนี้ได้จากวิดีโอด้านล่าง เป็นภาษาอังกฤษแปลไทย
อยากฟังเพลงนี้แบบภาษาอังกฤษแปลไทย คลิก
The King of fighter ภาค Another day การ์ตูนญี่ปุ่นที่สร้างมาจากเกมต่อสู้ชื่อดัง ร้องเป็นภาษาอังกฤษโดยวง Dakota star จากญี่ปุ่น ชื่อว่าเพลง Regret เป็นเพลงที่มีทำนองเร้าใจ ฟังแล้วคึกคัก เนื้อหาปลุกใจให้มีพลังต่อสู้อุปสรรคในชีวิต ฟังเพลงนี้ได้จากวิดีโอด้านล่าง
อยากฟังเพลงนี้แบบภาษาอังกฤษแปลไทย คลิก
สุดท้ายเป็นวิดีโอนำเสนอของเล่น Lego Indominus Rex เป็นภาษาอังกฤษแปลไทย ของน้อง Time (ทาม) และน้อง Thee (ธี) ที่พยายามฝึกพูดภาษาอังกฤษ
เริ่มที่เพลง Dance with father (เต้นรำกับพ่อ) ของ Luther Vandross ชาวอเมริกัน เล่าถึงสิ่งที่พ่อเคยทำให้ลูกตั้งแต่เกิด แต่ในที่สุดพ่อก็จากไป โดยที่ยังไม่ได้มีโอกาสชวนพ่อเต้นรำเลย และอีกเพลงที่อยู่ในวิดีโอตัวเดียวกัน ชื่อว่า The Man I want to be (ผู้ชายที่ฉันอยากเป็น) ในเนื้อเพลงก็คือพ่อนั่นเอง
อยากฟังเพลง Dance with father กับ The Man I want to be แปลไทย คลิกวิดีโอด้านล่าง
ยังจำโฆษณารณรงค์งดสูบบุหรี่ของกระทรวงสาธารณสุขกันได้ไหม
ที่มีลูกชายกำลังดูวิดีโอเก่าที่เคยถ่ายไว้กับครอบครัว
หลังจากที่พ่อจากไปด้วยด้วยพิษภัยของบุหรี่
ในโฆษณาชิ้นนี้ได้ใช้เพลงCat's in the Cradle
เป็น Background ด้วย
เพลง Cat's in the Cradle เป็นผลงานของ Harry Chapin
นักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวอเมริกัน
เพลงนี้ขึ้นสู่ความนิยมอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดในเดือนธันวาคม ปี 1974
โดยมียอดขายได้เป็นล้านแผ่น
และได้รับเสนอชื่อเข้าแข่งขันเป็นเพลงยอดเยี่ยมชิงรางวัลแกรมมี่
กล่าวขวัญกันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่
"..ทำให้คนที่เป็นพ่อรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์.."
Harry Chapin เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 18 ก.ค. 1981
อายุได้เพียง 38 ปีเท่านั้น
อนุสรณ์ของเขานอกจากเพลงที่ไพเราะหลายเพลงแล้วก็คือมูลนิธิที่เขาตั้งไว้
เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่หิวโหยทั่วโลก
เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีของภรรยาของHarry
Chapin เองคือ Sandy Cashmore
ซึ่งเขียนบทกวีขึ้นมาเมื่อนึกถึงชีวิตของสามีคนแรกของเธอคือ James
Cashmore
James Cashmore
เป็นลูกของ John Cashmore
เศรษฐีนักธุรกิจที่ไต่เต้ามาจากความด้อยโอกาส
การศึกษาเป็นทางการน้อยมาก
เมื่อร่ำรวยจึงตั้งเป้าให้ลูกชายคนเดียวนั้นเป็นโน่นเป็นนี่
เจ้ากี้เจ้าการจัดแจงทุกอย่างให้ลูก
ตั้งแต่เรื่องเรียนไปจนถึงแม้ตอนทำงาน Sandy
สังเกตเห็นความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ว่าแม้จะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่ทว่า
ห่างเหิน ไม่มีความสนิทสนม ผู้เป็นลูกขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง
เธอมีบุตรกับ James Cashmore สี่คนแล้วก็เลิกรากันและมาแต่งงานใหม่กับ
Harry Chapin
มีอยู่วันหนึ่งเธอนึกถึงสามีเก่าขึ้นมาก็เลยแต่งบทกวีให้บทหนึ่ง
รำพันถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินของพ่อกับลูกเพราะการที่พ่อเพ่งเล็งความ
สำเร็จในหน้าที่การงานมากเกินไปจนไม่มีเวลาให้กับลูก แล้วก็เอาให้
Harry ดู เขาดูแล้วก็เฉย ๆ จนกระทั่งปีหนึ่งผ่านไป เธอก็มีลูกชายกับ
Harry คนหนึ่ง เมื่อ Harry
มีลูกชายก็เลยนึกถึงบทกวีที่เธอเขียนไว้ให้เขาได้ก็เลยฉวยกีตาร์
มาขยับแต่งเพลงตามเค้าโครงของบทกวีนั้น จึงบังเกิดมาเป็นเพลง Cat's In
The Cradle ที่ไพเราะและลึกซึ้งกินใจดังกล่าว
เพลงต่อไปชื่อว่า Cat's in the cradle (แมวที่อยู่ในเปล) ร้องโดย Harry Chapin ชาวอเมริกัน ออกมาในปี 1974 ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเพลงที่พ่อหลายคนฟังแล้วไม่สบายใจที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับ พ่อที่เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาดูแลลูกของตน จนในที่สุดเมื่อตัวเองเกษียณ และอยากที่จะอยู่กับลูกบ้าง ก็ไม่มีโอกาสแล้ว เพลงนี้แต่งมาจากเรื่องจริงของ Jame Cashmore ซึ่งเป็นลูกของเศรษฐีที่ชื่อว่า John Cashmore ซึ่งมีเนื้อหาตามเนื้อเพลง
เพลง Cat's in the Cradle เป็นผลงานของ Harry Chapin
นักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวอเมริกัน
เพลงนี้ขึ้นสู่ความนิยมอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดในเดือนธันวาคม ปี 1974
โดยมียอดขายได้เป็นล้านแผ่น
และได้รับเสนอชื่อเข้าแข่งขันเป็นเพลงยอดเยี่ยมชิงรางวัลแกรมมี่
กล่าวขวัญกันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่
"..ทำให้คนที่เป็นพ่อรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์.."
Harry Chapin เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 18 ก.ค. 1981
อายุได้เพียง 38 ปีเท่านั้น
อนุสรณ์ของเขานอกจากเพลงที่ไพเราะหลายเพลงแล้วก็คือมูลนิธิที่เขาตั้งไว้
เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่หิวโหยทั่วโลก..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/267424
ยังจำโฆษณารณรงค์งดสูบบุหรี่ของกระทรวงสาธารณสุขกันได้ไหม
ที่มีลูกชายกำลังดูวิดีโอเก่าที่เคยถ่ายไว้กับครอบครัว
หลังจากที่พ่อจากไปด้วยด้วยพิษภัยของบุหรี่
ในโฆษณาชิ้นนี้ได้ใช้เพลงCat's in the Cradle
เป็น Background ด้วย
เพลง Cat's in the Cradle เป็นผลงานของ Harry Chapin
นักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวอเมริกัน
เพลงนี้ขึ้นสู่ความนิยมอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดในเดือนธันวาคม ปี 1974
โดยมียอดขายได้เป็นล้านแผ่น
และได้รับเสนอชื่อเข้าแข่งขันเป็นเพลงยอดเยี่ยมชิงรางวัลแกรมมี่
กล่าวขวัญกันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่
"..ทำให้คนที่เป็นพ่อรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์.."
Harry Chapin เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 18 ก.ค. 1981
อายุได้เพียง 38 ปีเท่านั้น
อนุสรณ์ของเขานอกจากเพลงที่ไพเราะหลายเพลงแล้วก็คือมูลนิธิที่เขาตั้งไว้
เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่หิวโหยทั่วโลก
ยังจำโฆษณารณรงค์งดสูบบุหรี่ของกระทรวงสาธารณสุขกันได้ไหม
ที่มีลูกชายกำลังดูวิดีโอเก่าที่เคยถ่ายไว้กับครอบครัว
หลังจากที่พ่อจากไปด้วยด้วยพิษภัยของบุหรี่
ในโฆษณาชิ้นนี้ได้ใช้เพลงCat's in the Cradle
เป็น Background ด้วย
เพลง Cat's in the Cradle เป็นผลงานของ Harry Chapin
นักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวอเมริกัน
เพลงนี้ขึ้นสู่ความนิยมอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดในเดือนธันวาคม ปี 1974
โดยมียอดขายได้เป็นล้านแผ่น
และได้รับเสนอชื่อเข้าแข่งขันเป็นเพลงยอดเยี่ยมชิงรางวัลแกรมมี่
กล่าวขวัญกันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่
"..ทำให้คนที่เป็นพ่อรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์.."
Harry Chapin เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 18 ก.ค. 1981
อายุได้เพียง 38 ปีเท่านั้น
อนุสรณ์ของเขานอกจากเพลงที่ไพเราะหลายเพลงแล้วก็คือมูลนิธิที่เขาตั้งไว้
เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่หิวโหยทั่วโลก
เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีของภรรยาของHarry
Chapin เองคือ Sandy Cashmore
ซึ่งเขียนบทกวีขึ้นมาเมื่อนึกถึงชีวิตของสามีคนแรกของเธอคือ James
Cashmore
James Cashmore
เป็นลูกของ John Cashmore
เศรษฐีนักธุรกิจที่ไต่เต้ามาจากความด้อยโอกาส
การศึกษาเป็นทางการน้อยมาก
เมื่อร่ำรวยจึงตั้งเป้าให้ลูกชายคนเดียวนั้นเป็นโน่นเป็นนี่
เจ้ากี้เจ้าการจัดแจงทุกอย่างให้ลูก
ตั้งแต่เรื่องเรียนไปจนถึงแม้ตอนทำงาน Sandy
สังเกตเห็นความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ว่าแม้จะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่ทว่า
ห่างเหิน ไม่มีความสนิทสนม ผู้เป็นลูกขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง
เธอมีบุตรกับ James Cashmore สี่คนแล้วก็เลิกรากันและมาแต่งงานใหม่กับ
Harry Chapin
มีอยู่วันหนึ่งเธอนึกถึงสามีเก่าขึ้นมาก็เลยแต่งบทกวีให้บทหนึ่ง
รำพันถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินของพ่อกับลูกเพราะการที่พ่อเพ่งเล็งความ
สำเร็จในหน้าที่การงานมากเกินไปจนไม่มีเวลาให้กับลูก แล้วก็เอาให้
Harry ดู เขาดูแล้วก็เฉย ๆ จนกระทั่งปีหนึ่งผ่านไป เธอก็มีลูกชายกับ
Harry คนหนึ่ง เมื่อ Harry
มีลูกชายก็เลยนึกถึงบทกวีที่เธอเขียนไว้ให้เขาได้ก็เลยฉวยกีตาร์
มาขยับแต่งเพลงตามเค้าโครงของบทกวีนั้น จึงบังเกิดมาเป็นเพลง Cat's In
The Cradle ที่ไพเราะและลึกซึ้งกินใจดังกล่าว
ยังจำโฆษณารณรงค์งดสูบบุหรี่ของกระทรวงสาธารณสุขกันได้ไหม
ที่มีลูกชายกำลังดูวิดีโอเก่าที่เคยถ่ายไว้กับครอบครัว
หลังจากที่พ่อจากไปด้วยด้วยพิษภัยของบุหรี่
ในโฆษณาชิ้นนี้ได้ใช้เพลงCat's in the Cradle
เป็น Background ด้วย
เพลง Cat's in the Cradle เป็นผลงานของ Harry Chapin
นักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวอเมริกัน
เพลงนี้ขึ้นสู่ความนิยมอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดในเดือนธันวาคม ปี 1974
โดยมียอดขายได้เป็นล้านแผ่น
และได้รับเสนอชื่อเข้าแข่งขันเป็นเพลงยอดเยี่ยมชิงรางวัลแกรมมี่
กล่าวขวัญกันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่
"..ทำให้คนที่เป็นพ่อรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์.."
Harry Chapin เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 18 ก.ค. 1981
อายุได้เพียง 38 ปีเท่านั้น
อนุสรณ์ของเขานอกจากเพลงที่ไพเราะหลายเพลงแล้วก็คือมูลนิธิที่เขาตั้งไว้
เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่หิวโหยทั่วโลก
เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีของภรรยาของHarry
Chapin เองคือ Sandy Cashmore
ซึ่งเขียนบทกวีขึ้นมาเมื่อนึกถึงชีวิตของสามีคนแรกของเธอคือ James
Cashmore
James Cashmore
เป็นลูกของ John Cashmore
เศรษฐีนักธุรกิจที่ไต่เต้ามาจากความด้อยโอกาส
การศึกษาเป็นทางการน้อยมาก
เมื่อร่ำรวยจึงตั้งเป้าให้ลูกชายคนเดียวนั้นเป็นโน่นเป็นนี่
เจ้ากี้เจ้าการจัดแจงทุกอย่างให้ลูก
ตั้งแต่เรื่องเรียนไปจนถึงแม้ตอนทำงาน Sandy
สังเกตเห็นความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ว่าแม้จะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่ทว่า
ห่างเหิน ไม่มีความสนิทสนม ผู้เป็นลูกขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง
เธอมีบุตรกับ James Cashmore สี่คนแล้วก็เลิกรากันและมาแต่งงานใหม่กับ
Harry Chapin
มีอยู่วันหนึ่งเธอนึกถึงสามีเก่าขึ้นมาก็เลยแต่งบทกวีให้บทหนึ่ง
รำพันถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินของพ่อกับลูกเพราะการที่พ่อเพ่งเล็งความ
สำเร็จในหน้าที่การงานมากเกินไปจนไม่มีเวลาให้กับลูก แล้วก็เอาให้
Harry ดู เขาดูแล้วก็เฉย ๆ จนกระทั่งปีหนึ่งผ่านไป เธอก็มีลูกชายกับ
Harry คนหนึ่ง เมื่อ Harry
มีลูกชายก็เลยนึกถึงบทกวีที่เธอเขียนไว้ให้เขาได้ก็เลยฉวยกีตาร์
มาขยับแต่งเพลงตามเค้าโครงของบทกวีนั้น จึงบังเกิดมาเป็นเพลง Cat's In
The Cradle ที่ไพเราะและลึกซึ้งกินใจดังกล่าว
อยากฟังเพลง Cat's in the cradle แปลไทย คลิกวิดีโอด้านล่าง
ยังจำโฆษณารณรงค์งดสูบบุหรี่ของกระทรวงสาธารณสุขกันได้ไหม
ที่มีลูกชายกำลังดูวิดีโอเก่าที่เคยถ่ายไว้กับครอบครัว
หลังจากที่พ่อจากไปด้วยด้วยพิษภัยของบุหรี่
ในโฆษณาชิ้นนี้ได้ใช้เพลงCat's in the Cradle
เป็น Background ด้วย
เพลง Cat's in the Cradle เป็นผลงานของ Harry Chapin
นักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวอเมริกัน
เพลงนี้ขึ้นสู่ความนิยมอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดในเดือนธันวาคม ปี 1974
โดยมียอดขายได้เป็นล้านแผ่น
และได้รับเสนอชื่อเข้าแข่งขันเป็นเพลงยอดเยี่ยมชิงรางวัลแกรมมี่
กล่าวขวัญกันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่
"..ทำให้คนที่เป็นพ่อรู้สึกไม่สบายใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์.."
Harry Chapin เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 18 ก.ค. 1981
อายุได้เพียง 38 ปีเท่านั้น
อนุสรณ์ของเขานอกจากเพลงที่ไพเราะหลายเพลงแล้วก็คือมูลนิธิที่เขาตั้งไว้
เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่หิวโหยทั่วโลก
เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีของภรรยาของHarry
Chapin เองคือ Sandy Cashmore
ซึ่งเขียนบทกวีขึ้นมาเมื่อนึกถึงชีวิตของสามีคนแรกของเธอคือ James
Cashmore
James Cashmore
เป็นลูกของ John Cashmore
เศรษฐีนักธุรกิจที่ไต่เต้ามาจากความด้อยโอกาส
การศึกษาเป็นทางการน้อยมาก
เมื่อร่ำรวยจึงตั้งเป้าให้ลูกชายคนเดียวนั้นเป็นโน่นเป็นนี่
เจ้ากี้เจ้าการจัดแจงทุกอย่างให้ลูก
ตั้งแต่เรื่องเรียนไปจนถึงแม้ตอนทำงาน Sandy
สังเกตเห็นความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ว่าแม้จะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่ทว่า
ห่างเหิน ไม่มีความสนิทสนม ผู้เป็นลูกขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง
เธอมีบุตรกับ James Cashmore สี่คนแล้วก็เลิกรากันและมาแต่งงานใหม่กับ
Harry Chapin
มีอยู่วันหนึ่งเธอนึกถึงสามีเก่าขึ้นมาก็เลยแต่งบทกวีให้บทหนึ่ง
รำพันถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินของพ่อกับลูกเพราะการที่พ่อเพ่งเล็งความ
สำเร็จในหน้าที่การงานมากเกินไปจนไม่มีเวลาให้กับลูก แล้วก็เอาให้
Harry ดู เขาดูแล้วก็เฉย ๆ จนกระทั่งปีหนึ่งผ่านไป เธอก็มีลูกชายกับ
Harry คนหนึ่ง เมื่อ Harry
มีลูกชายก็เลยนึกถึงบทกวีที่เธอเขียนไว้ให้เขาได้ก็เลยฉวยกีตาร์
มาขยับแต่งเพลงตามเค้าโครงของบทกวีนั้น จึงบังเกิดมาเป็นเพลง Cat's In
The Cradle ที่ไพเราะและลึกซึ้งกินใจดังกล่าว