ข้อมูลโดย Nanatakara/bloggang.com
นี่คือหนังอาร์เจนติน่าที่ติดโผ 1 ใน 5 เรื่องที่ได้เข้าชิงออสก้าร์สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม
ซึ่งตัวหนังนั้นก็ครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดของปีในประเทศอาร์เจนติน่าซะด้วย โดยรั้งอันดับ 1 อยู่นานกว่า 3 เดือนก่อน จะโดนสารคดีคอนเสิร์ต Michael Jackson's This Is It ของป้าแจ็คโก้สอยร่วงไปในที่สุด ได้ทั้งเงินทั้งกล่องแบบนี้ก็ไม่เสียแรงที่ ผู้กำกับ Juan José Campanella (ฆวน โฆเซ่ กัมปาเน้ยา) เขาอุตส่าห์ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการกำกับหนังทีวีในอเมริกาอยู่นานนับ 10 ปี (อันที่จริงก็ไปๆ มาๆ กับบ้านเกิดแหล่ะนะ อิอิ)
คู่พระนางของเรื่อง
หนังพาย้อนไปในปี 1974 เมื่อ Benjamín Espósito (เบนฆามีน เอสโป้ซิโต) เจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้าไปสืบสวนคดีฆ่าข่มขืนสุดทารุณคดีหนึ่ง และในขณะเดียวกัน Irene Menéndez (อีเร้เน เมเน้นเดส) นักกฎหมายสาวไฟแรง ก็เพิ่งจะเข้ามารับช่วงเป็นหัวหน้าหน่วยงานของเขาพอดี
แล้วดูเหมือนทั้งคู่ก็น่าจะมีใจต่อกันอยู่
แต่เขาก็พยายามหยุดเรื่องนี้ไว้แค่ในฐานะเจ้านาย-ลูกน้องอยู่เสมอ
ด้วยสำนึกว่า ตนคงเหมือนน้องหมาวัดที่กำลังเห่าเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันซะมากกว่า เพราะทั้งคู่ต่างกันทั้งด้าน วัย ฐานะ การศึกษา ส่วนตัวคนร้ายนั้นเล่า ก็ยังคงเดินลอยนวลอยู่ได้ โดยที่พวกเขาทำอะไรไม่ได้
หนำซ้ำยังเป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันกว่า 25 ปีเลยทีเดียว
ในปี 1999 แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ เบนจามีน ก็ไม่เคยลืม อีเร้เน
และคดีๆ นั้นได้เลย
เขาได้กลับมาพบเธออีกครั้งพร้อมได้นำเอาต้นฉบับนิยายที่เขาได้เขียนขึ้น โดยอิงเนื้อเรื่องจากคดีฆ่าข่มขืนนั้นมาให้เธออ่าน
ซึ่งการกลับมาพบกันครั้งนี้ อาจเป็นเหตุให้ถ่านไฟเก่าคุขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ รวมทั้งยังทำให้เขาตัดสินใจสะสางเรื่องคดีที่ยังค้างคาใจมานานกว่า 25
ปีอีกด้วย ส่วนเรื่องราวจะลงเอยยังไงก็โปรดติดตามกันตามอัธยาศัยเลยจ้า
พระเอกเราช่างจัดพื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะทำงานได้คุ้มจริงๆ
หนังดราม่าสืบสวนเรื่องนี้ทำออกมาได้ละเมียดดีจัง เพราะจริงๆ
แล้วนี่เป็นหนังรักต่างหาก แต่ก็เป็นรักแบบผู้ใหญ่ๆ ที่ไม่ได้หวือหวา
ซู่ซ่านะ
ส่วนใหญ่พระนางของเราก็ได้แต่สื่อความรู้สึกต่อกันทางสายตา (ตามชื่อเรื่อง)
แต่บทจะจี๊ดก็ยังจี๊ดได้เรื่องอยู่ ทางด้านเรื่องการสืบสวนก็ไปแบบเรื่อยๆ
ไม่ตื่นเต้นตูมตาม แต่ก็ไม่หย่อนความน่าติดตามเช่นกัน เท่านั้นยังไม่พอ คุณ
ผู้กำกับยังขอโชว์ความเทพ โดยการถ่ายทำฉากไล่ล่าในสนามฟุตบอลแบบลองเทคยาว 6
นาที โดยทราบมาว่า กว่าจะออกมาอย่างที่เห็น
ผู้สร้างต้องวางแผนสำหรับฉากนี้ฉากเดียวกว่า 2 ปี โดยถ่ายทำเพียงแค่ 3 วัน
ซึ่งผลที่ออกมาก็ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมจริงๆ (นับถือๆ)
และที่ลืมไม่ได้คือดนตรีประกอบโดยฝีมือของ Federico Jusid (เฟเดรีโก ฆูซิด) และ Emilio Kauderer (เอมีเลียว เกาเดเรร์) ที่เพราะพริ้งเสริมสร้างอารมณ์ให้กับหนังได้มากๆ และในที่สุดหนังก็เป็นตาอยู่คว้าออสก้าร์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมไปครองได้จริงๆ
Únete al grupo de Facebook "Club de las lenguas occidentales de la Universidad de Ramkhamhaeng" al https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
20 เมษายน 2014
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
20 เมษายน 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น