Hermes หรืออีกชื่อหนึ่งที่ชาว โรมันเรียกคือ Mercury เทพเจ้าแห่งดาวพุธ
Hermes ได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้า ผู้ส่งข่าวสารที่มีฝีเท้าว่องไวเป็นเลิศ
นอกจากนี้เทพเจ้า Hermes ยังมีหน้าที่อีกมากมาย
เช่นเป็นทูตที่เทพเจ้าทั้งหลายไว้วางใจ
เป็นผู้ควบคุมความมืดของเวลากลางคืนไปสู่เทพเจ้า Hades
Hermes ได้ชื่อว่าเป็นผู้อุปถัมภ์การดูแลสั่งสอน และการศึกษาของเด็กๆ
Hermes ส่งเสริม กีฬากายกรรม กีฬากรีฑา
ดังนั้นเราจะสามารถพบเห็นรูปเคารพของเทพเจ้า Hermes ตาม โรงยิม และ
โรงฝึกมวยปล้ำในยุคกรีกโบราณ นอกจากนี้เทพเจ้า
Hermes
ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้คิดค้น ตัวอักษร และเป็นผู้ให้พรเกี่ยวกับ
ศิลปะในการแปลภาษาต่างประเทศ
อีกด้วยนับว่าเป็นเทพเจ้าที่มีความสามารถรอบตัว
และเป็นที่นับถือหลายๆด้านเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดของเทพเจ้า Hermes คือความฉลาดหลักแหลม
มีไหวพริบและความเจ้าเล่ห์ นับว่าเทพเจ้า Hermes
นั้นมีความสามารถด้านนี้อย่างฉกาจเลยทีเดียว
ด้วยความหลักแหลมและความเจ้าเล่ห์นี้เองที่ทำให้เทพเจ้า Zeus เลือก Hermes
เป็นผู้ติดตามเสมอๆเวลาที่ Zeus แปลงเป็นมนุษย์ลงมาท่องเที่ยวบนโลก
Hermes นั้นได้รับการบูชาว่าเป็นเทพเจ้าแห่ง วาทศิลป์และการเจรจา
ตามตำนานว่ากันว่า เมื่อ Hephaestus ได้สร้าง Pandora ขึ้นมา เทพเจ้า
Hermes ได้มอบลิ้นอันมีความสามารถในการชักชวนให้กับนาง
นอกจากนี้ Hermes ยังได้รับการสักการะในด้านความเจริญรุ่งเรือง
ของกลุ่มคนและฝูงสัตว์ Hermes ได้รับการบูชาเป็นพิเศษในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์
ในอดีตกาลถ้าพูดถึงเรื่องการค้าขายแล้วล่ะก็
การซื้อขายแลกเปลี่ยนสัตว์ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีค่าและสำคัญที่สุด
ดังนั้นเมื่อ Hermes ได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าของผู้เลี้ยงสัตว์
ก็เลยได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการค้าขายไปอีกตำแหน่งหนึ่ง
อีกสาเหตุหนึ่งที่ Hermes ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการค้าขาย
ก็เพราะอาชีพค้าขายนั้นเป็นอาชีพที่ต้องใช้สติปัญญา
และความสามารถในการติดต่อค้าขายเจรจา เป็นสำคัญ
ดังนั้นเหล่าพ่อค้าจึงยกย่องเทพเจ้า Hermes
ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งวาทศิลป์เป็นพิเศษ
เนื่องจากได้ชื่อว่า เป็นเทพผู้อุปถัมภ์การค้าขาย Hermes
ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้อวยพรสำหรับการเจรจาระหว่างประเทศอีกด้วย
(ด้วยเหตุผลที่ต่อเนื่องกันมา ทั้งด้านวาทศิลป์และการค้าขาย
ซึ่งต้องมีการค้าขายระหว่างดินแดนเป็นธรรมดา) นอกจากนี้ Hermes
เองก็ได้รับการสักการะว่าเป็น เทพเจ้าแห่งการเดินทาง
ผู้คอยคุ้มครองเหล่านักเดินทาง คนเลี้ยงสัตว์
รวมไปถึงพ่อค้าวานิชทั้งหลายทั้งปวง อีกต่างหาก
มีความเชื่อกันว่า เทพเจ้า Hermes จะคอยปกป้องคุ้มครองนักเดินทางทั้งหลาย
แต่หากใครก็ตามที่ไม่ยอมช่วยนักเดินทางที่หลงทาง
หรือแล้งน้ำใจกับนักเดินทางที่เหนื่อยอ่อน แล้วล่ะก็จะถูกเทพเจ้า Hermes
ลงโทษ เทพเจ้า Hermes ถือได้ว่าเป็นผู้ปกป้องถนนหนทางต่างๆ จะพบรูปปั้นของ
Hermes เรียกว่า Hermae (เป็นรูปปั้นที่มีลักษณะเป็นเสาและมีรูปปั้น
ศีรษะของเทพเจ้า Hermes อยู่บนยอด) นอกจาก Hermae นี้จะอยู่ตามถนน
แล้วยังมักจะถูกสร้างไว้ทางแยก และจตุรัสที่มีคนพลุกพล่าน
เนื่องจากได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรับผิดชอบมากมายแล้ว
Hermes ยังได้รับการสักการะว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยและโชคลาภ
และเนื่องจาก Hermes
ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำพามาซึ่งจังหวะที่ไม่คาดฝันของโชคชะตา Hermes
ยังถูกยกให้เป็นเทพแห่งการพนันลูกเต๋าด้วย
พูดกันถึงหน้าที่ของเทพเจ้า Hermes
มากันก็เยอะแล้วทีนี้มาดูกันบ้างดีกว่ากว่า Hermes นั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
Hermes เป็นบุตรของ Zeus และ Maia
ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดและได้รับยกย่องว่า งดงามที่สุดใน หมู่
Pleiades ทั้ง 7 (Pleiades เป็นชื่อเรียกเหล่าลูกสาวของ Atlas มีทั้งหมด 7
นาง) ซึ่ง Hermes นั้นเกิดในถ้ำแห่งภูเขา Cyllene ใน Arcadia
ตั้งแต่แรกเกิดขึ้นมา Hermes ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์
และความสามารถในการเสแสร้งอย่างโดดเด่นเลย (born to be ว่างั้น…)
ถ้าเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็คือ Hermes เป็นขโมยตั้งแต่เด็ก ว่างั้นแหละ
เรื่องของเรื่องก็คือ Hermes ตั้งแต่แรกเกิดขึ้นมาก็คิดจะไปขโมย วัวของเทพเจ้า Apollo ซึ่งในตอนนั้น ทำหน้าที่เลี้ยงฝูงวัวของ Admetus
แต่ก่อนที่ Hermes จะเริ่มลงมือโจรกรรมวัว ระหว่างทาง Hermes
ไปพบกับเต่าเข้าตัวหนึ่ง Hermes เกิดไอเดีย ขึ้นมาก็เอากระดองเต่า
(ที่ตนเองจัดการเรียบร้อยไปแล้ว) เปล่าๆนั้นมา แล้วจัดการขึงด้วยเชือกป่าน 7
เส้น ทำเป็นเครื่องดนตรี ซึ่งนี่คือจุดกำเนิดของเครื่องดนตรี Lyre
ขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจาก Hermes ได้ทดลองเล่น
เครื่องดนตรีที่มีเสียงอันไพเราะจนเป็นที่พึงพอใจแล้ว ก็ย้อนเอา Lyre
นี้ไปไว้ที่เปลของตนเองก่อนแล้วจึงค่อย ออกเดินทางต่อเพื่อไปยัง Pieria
ที่ๆ ฝูงวัวกินหญ้าอยู่เพื่อจะไปจิ๊กวัวของ Apollo ให้ได้
Hermes ไปถึงในตอนพระอาทิตย์ตกดินพอดี Hermes ได้ทำการแยกวัวออกจากฝูงที่
Apollo ต้อนล่วงหน้าไป จำนวนวัวที่แยกออกมาได้ 50 ตัวซึ่งในตอนนั้น Hermes
ได้ทำรองเท้าจาก กิ่งของต้น Myrtle เพื่อที่จะได้หนีได้อย่างไร้ร่องรอย
(ขอย้ำอีกครั้งว่าตอนนั้น Hermes เพิ่งแรกเกิดนะเนี่ย!)
แต่อย่ากระนั้นเลยใช่ว่าจะไม่มีใครเห็น การขโมยนี้ก็ดันมีพยานรู้เห็นจนได้
เขาเป็นคนเลี้ยงแกะชื่อ Battus
Hermes เมื่อรู้ว่ามีคนเห็น ก็เลยจัดแจงเลือกวัวที่ดีที่สุดออกมาจากฝูง 2
ตัว (วัวที่ขโมยมานั่นแหละ) และให้กับ Battus
ไปเพื่อเป็นสินบนไม่ให้ปากโป้ง ซึ่ง Battus
ก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาด แต่ Hermes นั้นมองออกว่า
คนเลี้ยงแกะคนนี้ทางทางจะไม่ซื่อสัตย์จึงได้ล่วงหน้าไป
แล้วปลอมตัวด้วยชุดของ Admetus และมาหา Battus และได้เสนอ วัวที่ดีที่สุด 2 ตัวให้แต่ขอให้บอกว่าใครเป็นคนขโมยวัว
ด้วยความโลภ Battus ก็ตะครุบเหยื่อล่อทันที Hermes เห็นดังนั้น
ก็เลยใช้พลังทั้งหมด (เนื่องจากตอนนั้น Hermes
ยังเป็นเด็กน้อยแรกเกิดยังไม่มีพลังมากนัก) สาป Battus
กลายเป็นหินเพื่อเป็นการลงโทษที่ทรยศและโลภ หลังจากนั้น Hermes
ได้สังหารและเผาวัวทั้ง 2 ตัวนั้นเป็นเครื่องบูชา
ตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาแก่ทวยเทพ
ส่วนอีกตัวหนึ่งเพื่อเป็นการบูชาแก่ตนเอง และได้นำวัวที่เหลือไปขังไว้ในถ้ำ
หลังจากนั้นก็ดับไฟอย่างระมัดระวัง ถอดรองเท้าที่ทำจากกิ่งต้น Myrtle
ทิ้งลงแม่น้ำ Alpheus และกลับไปยัง Cyllene
ส่วน Apollo นั้นเป็นผู้มีพลังหยั่งรู้
ทำให้รู้เรื่องโดยตลอดว่าใครเป็นผู้ขโมยวัวที่ตนเองดูแล จึงได้รีบรุดไปยัง
Cyllene เพื่อถามหาความรับผิดชอบและเรียกร้องการชดใช้ กับมารดาของ Hermes
ซึ่ง Maia นั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว ก็แก้ต่างแทนลูกของตัวเอง
แล้วก็บอกกับ Apollo ว่า ลูกของตนนั้นยังหลับอยู่ในเปลอยู่เลยแล้วจะไป
ขโมยวัวของ Apollo ได้อย่างไร ซึ่ง Hermes
เองก็แสร้งทำเป็นหลับปุ๋ยอยู่ในเปล เมื่อ Apollo เห็นดังนั้นก็ยิ่งโมโห
Apollo ขู่เด็กน้อย Hermes ว่าหากไม่ยอมรับผิดจะจับ Hermes โยนลงไปที่ Tartarus
(ขุมนรกที่ลึกสุดหยั่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของ Hades) แต่จนแล้วจนรอด Hermes
ก็ยังคงไม่ยอมรับและแกล้งทำเป็นว่าตนนั้นยังไร้เดียงสา ยังไม่รู้จักเลยว่า
วัว คืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร จนแล้วจนรอดก็ยังคงไม่ยอมรับ Apollo จึงพา
Hermes ไปหา Zeus และสภาแห่งเหล่าทวยเทพ
เมื่อ Zeus ได้ฟังความจากเทพเจ้า Apollo แล้ว ก็แสดงความจำนงให้ Hermes
พาApollo ไปยังที่ๆ Hermes ซ่อนวัวไว้แต่กระนั้น Hermes
ก็ยังกล้าที่จะใช้วาทศิลป์เพื่อที่จะให้ตนรอด Hermes พูดกับ Zeusว่า “
โปรดมองดูที่ตัวข้าพเจ้า
ท่านดูแล้วคิดว่าข้าซึ่งเป็นเด็กตัวเท่านี้จะมีปัญญาไปเอาฝูงวัวของ Apollo
มาได้อย่างไร? แล้วเด็กที่เพิ่งจะเกิดเมื่อวาน อย่างข้าจะสามารถ
เดินบนพื้นอันขรุขระด้วยฝ่าเท้าอันบอบบางเช่นนี้ได้อย่างไร?
จนถึงนาทีนี้ข้าได้แต่หลับอยู่ในอ้อมอกแม่
แม้แต่ทางเข้าถ้ำที่พักอยู่ยังไม่เคยได้ข้ามไป
ท่านน่าจะรู้ว่าข้านั้นไม่ได้ทำผิด แต่หากเป็นประสงค์ของท่านแล้ว
จะให้ข้าสาบานก็ยังได้ ” เมื่อเห็นดังนั้น Zeus ก็อดที่จะเอ็นดูในความฉลาดและเจ้าเล่ห์ของ Hermes ตัวน้อยไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม Zeus รู้ได้ถึงความผิดของ Hermes และยังคงบัญชาให้ Hermes
พา Apollo ไปยังที่ๆ ซ่อนวัว เมื่อ Hermes ตระหนักได้ว่า
คำแก้ตัวของตนคงไม่สามารถ ทำให้รอดพ้นไปได้จึงยอมทำตามคำสั่งในทันที
ในขณะที่ Hermes พาฝูงสัตว์กลับมาที่ Pieria ด้วยความบังเอิญ Hermes
ไปโดนสาย Lyre ของตนเองเข้าทำให้เกิดเสียงอันไพเราะ Apollo
เองไม่เคยได้ยินเสียงดนตรีอื่นใด นอกจาก Lyre 3 สายของตนเอง และ Syrinx
(เครื่องเป่าชนิดหนึ่งของ Greek เรียกอีกอย่างว่า Pan flute)
Apollo ถูกใจ Lyre ของ Hermes เป็นอันมากถึงขนาด ขอแลก Lyre
กับฝูงวัวของตน นอกจากนี้ยังสัญญาว่า ให้ Hermes นั้นเป็นนายแห่ง ฝูงสัตว์
ฝูงม้า และสัตว์ป่าทั้งหลายทั้งมวล
ซึ่งเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ทั้งสองกลับมาปรองดองกันอีกครั้ง
และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ Hermes เป็นเทพเจ้าแห่งฝูงสัตว์ ส่วน
Apollo นั้น ก็ทุ่มเทสนใจกับ ศิลปะแห่งการดนตรี
หลังจากนั้นทั้งสองก็พากันไปที่หุบเขาแห่ง Olympus
และได้ประกาศให้เหล่าทวยเทพรับรู้โดยทั่วกันว่า Hermes และ Apollo
จะเป็นมิตรกันและให้ Hermes สัญญาต่อหน้าแม่น้ำ Styx ว่า Hermes จะไม่ขโมย
Lyre หรือ ธนูของ Apollo นอกจากนั้นต้องไม่บุกเข้าไปที่ Sanctuary ของ
Apollo นอกจากนี้ Apollo ยังมอบ Caduceus (ไม้เท้าทองคำ ที่มี ปิกและมีงูพันทั้งสองด้านของไม้เท้า)
นอกจากนี้ Zeus ยังได้มอบหมวกเงินที่มีปิก (Petasus) และ ปีกเงินที่รองเท้า (Talaria) และได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นผู้นำสารแห่งเหล่าทวยเทพ และเป็นผู้นำพาความมืดแห่งรัตติกาลไปส่งให้แก่ Hades
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น