ข้อมูลจาก ขอนแก่นมาราธอน.com
ตำนานมาราธอน
490
ปีก่อนคริสตกาล
เปอร์เชียยกกองทัพอันยิ่งใหญ่มากด้วยกำลังพลมุ่งเข้าทำลายล้างกรีก
โดยยกทัพผ่านเมืองมาราธอน(เมืองหนึ่งในประเทศกรีก ภาษากรีก มาราธอนแปลว่า
ดินแดนที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ที่มีดอกสีเหลือง)
ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเอเธนส์ (เมืองหลวงของประเทศกรีก)
เมื่อกรีกรู้ข่าวการยกทัพมาโจมตีของศัตรู
ก็หวั่นใจเพราะกำลังพลฝ่ายกรีกมีน้อยกว่าเปอร์เชียร์หลายเท่า ครั้นจะปิดเมืองหนีก็มิใช่หนทางแห่งนักรบ ใน
คราวนี้กรีกจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเมืองสปาร์ต้า
ซึ่งเก่งกาจด้านการรบจนเป็นที่เลื่องลือ
เพราะกรีกรู้ดีว่ากองทัพของกรุงเอเธนส์เสียเปรียบด้านกำลังพลกอ
งทัพเปอร์เชียร์อยู่มาก
ในการส่งสารขอความช่วยเหลือครั้งนี้ ผู้นำกองทัพกรีกได้ไว้วางใจให้ นายทหารฟิดิปปิดีส (Pheidippides) ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการวิ่งระยะไกล วิ่งจากกรุงเอเธนส์ไปยังเมืองสปาร์ต้า ระยะทาง 224 กิโลเมตร โดยไม่มีจดหมายใดๆ ติดตัวไป แต่ให้จดจำเนื้อหาสารไป
แทน เพื่อเป็นการป้องกันความลับทางราชการรั่วไหล
แต่เมื่อฟิดิปปิดีสถึงสปาร์ต้า เขาต้องผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับ
สปาร์ต้าไม่สามารถยกทัพไปช่วยกรีกได้ในเวลานี้
เนื่องจากในช่วงเวลานี้เมืองสปาร์ต้ามีพิธีกรรมทางศาสนา
ต้องรอจนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธีกรรม จึงจะยกทัพไปช่วยกรีกได้ ฟิดิปปิดีส
จำต้องออกวิ่งอีกครั้งเพื่อแจ้งข่าวร้ายนี้ให้กรุงเอเธนส์ทราบ
แม้
เหนื่อยล้าขาแทบหมดแรง แต่ด้วยเลือดรักชาติ ฟิดิปปิดีส กลั้นใจวิ่งอีก 224
กิโลเมตร เพื่อแจ้งข่าวให้บ้านเกิดของตนทราบโดยเร็วที่สุด
เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ใหม่ ในใจเขาห่วงบ้านเมืองยิ่งกว่าชีวิตตนเอง
เขาวิ่งโดยไม่หยุดพัก ไม่มีอาหาร ไม่มีการนอนพัก
มีเพียงแวะวักน้ำข้างทางประทังชีวิตเท่านั้น
เมื่อ
กรีกทราบข่าวร้ายจากฟิดิปปิดีส
จึงตัดสินใจเคลื่อนกองพลกรีกออกไปดักรอโจมตีศัตรู ที่มาราธอน
โดยกระจายกำลังโอบล้อมไว้ กรีกจงใจให้เมืองมาราธอนกลายเป็นสนามรบ
เพื่อขัดขวางไม่ให้กองทัพเปอร์เชียผ่านเมืองมาราธอนเข้ากรุงเอเ ธนส์ได้ง่าย แม้กองทัพกรีกจะมีทหารน้อยกว่าเปอร์เชียหลายเท่าตัว แต่
กรีกก็เป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง ประกอบกับกรีกใช้วิธีโจมตีแบบจู่โจม รวดเร็ว
ทำให้กองทัพเปอร์เชียแตกพ่ายไม่เป็นท่า
ถือเป็นชัยชนะที่น่าภาคภูมิใจของชาวกรีก
แม้กำลังพลน้อยแต่ก็สามารถเอาชนะเปอร์เชียได้
แต่สงครามไม่จบเพียงเท่านี้ ทหาร
เปอร์เชียที่ยังรอดตายจากการถูกโจมตี
หนีกลับไปแจ้งแก่กองทัพเปอร์เชียที่เหลือว่าขณะนี้
เปอร์เชียพ่ายแพ้กรีกแล้วที่เมืองมาราธอน
เมื่อทราบข่าวดังนั้นกองทัพเปอร์เชียที่เหลือจึงเตรียมบุกกรุงเ อเธนส์ทันที
ทาง
ฝ่ายกรีก ยังไม่วางใจกองทัพเปอร์เชีย
เพราะเปอร์เชียแม้จะล้มตายไปมากแต่ก็ยังเหลือทัพที่ยังไม่ได้ยก มา
และกรีกคาดว่า เอเธนส์อาจเป็นเป้าหมายของกองทัพเปอร์เชียที่เหลือ
กองทัพกรีกที่อยู่ ณ เมืองมาราธอน
จำต้องแจ้งข่าวแก่ประชาชนในกรุงเอเธนส์ให้หนีออกจากมืองโดยด่วน
หน้าที่ส่งข่าวที่สำคัญและยิ่งใหญ่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ฟิดิปปิดีส แม้เขาจะยังอยู่ในอาการเหนื่อยล้า จากการวิ่งที่แสนทรหด แต่ด้วยจิตวิญญาณความจงรักภักดีต่อแผ่นดินเกิดของชายชาติทหาร หลายชีวิตอยู่ในความรับผิดชอบของเขา ฟิดิปปิดีสลุกขึ้นกลั้นใจวิ่งอีกครั้ง แม้ครั้งนี้ร่างกายแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยง แต่ก็ต้องวิ่ง วิ่งให้เร็ว ก่อนที่กองทัพเปอร์เชียจะถึงเอเธนส์
ฟิดิปปิดีสวิ่งจากเมืองมาราธอนถึงกำแพงอะโครโพลิสของกรุงเอเธนส ์ รวมระยะทาง 42.195 กิโลเมตร
เขาล้มลงด้วยแข้งขาไรกำลัง
แจ้งข่าวดีแก่ชาวเมืองว่าขณะนี้กองทัพกรีกมีชัยเหนือกองทัพเปอร ์เชีย
แต่ให้ประชาชนระวังตัวเตรียมหนีไว้
เพราะเกรงว่าเปอร์เชียอาจยกทัพบุกเอเธนส์ในไม่ช้า เมื่อสิ้นความ ฟิดิปปิดีสก็สิ้นใจ
ฝ่ายทัพเปอร์เชียเห็นความกล้าแกร่งของกองทัพกรีก ก็ยังลังเลใจที่จะเข้าโจมตีเอเธนส์ แม้กรีกจะมีกำลังพลน้อยกว่าแต่ก็ชนะมาได้ครั้งหนึ่ง และครั้งนี้หากเปอเชียร์บุกเอเธนส์ผลีผลาม อาจทำให้เปอร์เชียสูญเสียกำลังพล เปอร์เชียจึงเบนเป้าหมายออกจากกรีก เพราะเห็นว่ากรีกไม่ได้เข้าโจมตีง่ายอย่างที่คิด
ด้วยเหตุนี้เอง การวิ่งครั้งสุดท้ายของ ฟิดิปปิดีสจึงกลายมาเป็นประวัติศาสตร์ของการวิ่งมาราธอน วิ่งระยะไกล และต้องใช้ความอดทนสูง
สำหรับนักวิ่ง ฟิดิปปิดีสเป็นเสมือนบิดาแห่งการวิ่งมาราธอน แต่สำหรับประชาชนชาวกรีก เขาเป็นเสมือนฮีโร่ เพราะเขายอมวิ่งด้วยระยะทางอันไกล ไกล
เกินกว่าคนๆหนึ่งจะมีกำลังวิ่งได้ เขายอมสละชีพของตน
เพื่อแจ้งข่าวดีแก่ชาวเมือง
และแจ้งให้ชาวเมืองเตรียมความพร้อมเผื่อกองทัพเปอร์เชียบุกมาโจ มตีเอเธนส์ ชาวกรีกระลึกถึงความดีความชอบของฟิดิปปิดีสที่วิ่งด้วยระยะทางม หาโหดทำให้เมืองเอเธนส์รอด ชาวกรีกจึงจารึกชื่อเขาไว้ ณ อะโครโพลิส ซึ่งเป็นจุดเขาสิ้นใจ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความดีความกล้าและความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้
จอมณรงธร ศรีอริยนันท์ (ตี๋)
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น