ข้อมูลโดย Wikipedia และ mju.ac.th
สตรอว์เบอร์รีมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ (แคนาดาและสหรัฐอเมริกา) แล้วแพร่กระจายไปยังทวีปยุโรป
ตลอดจนถึงซีกโลกตะวันตก สวนสตรอว์เบอร์รีแห่งแรกเกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างปลายปีศตวรรษที่ 18 ชาวฝรั่งเศสเริ่มต้นปลูกสตรอว์เบอร์รีป่า ภายในสวนของพวกเขาไว้สำหรับการเก็บเกี่ยว ภายหลังสตรอว์เบอร์รีได้กระจายไปทั่วยุโรป นิยมปลูกกันในหลายประเทศ ภาษาฝรั่งเศสเรียกสตรอว์เบอร์ว่า Fraise (เฟรเซอ)
สำหรับการแพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยนั้น
ชาวอังกฤษผู้หนึ่งได้นำต้นสตรอว์เบอร์รีเข้ามาปลูกที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477
สตรอว์เบอร์รีเป็นสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ ผลสามารถรับประทานได้ ในอดีตปลูกเป็นพืชคลุมดินให้กับต้นไม้ปลูกเลี้ยงอื่น ผลของสตรอว์เบอร์รีมีรสชาติหลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
มีตั้งแต่รสหวานจนถึงเปรี้ยว สตรอเบอร์รีเป็นผลไม้ทางการค้าที่สำคัญ
มีปลูกกันเป็นวงกว้างหลายสภาพอากาศทั่วโลก สตรอว์เบอร์รีมีวิตามินเอ , วิตามินบี , วิตามินซี , กรดโฟลิก (Folic acid) และมีเส้นใยอาหาร (Fiber) อีกด้วย
ข้อมูลโดย kapook.com
ประโยชน์ของ Strawberry
1.ช่วยล้างพิษที่สะสมในร่างกาย เช่น กรดยูริก สาเหตุสำคัญของโรคข้ออักเสบและโรคเกาท์
2.ช่วยให้ห่างไกลโรคต่าง ๆ ทั้งโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้นิ่วในไต สีแดงสดของสตรอเบอร์รีล้วนอุดมไปด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพคติน และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและช่วยเคลือบทางเดินอาหารอีกด้วย
3.ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองโดยสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้กับระบบประสาท
4.ช่วยดูแลสายตา สารต้านอนุมูลอิสระในสตรอเบอร์มีส่วนช่วยชะลอขบวนการเสื่อสภาพของดวงตาได้
5.ช่วยลดความอ้วน
สตรอเบอร์รีคือผลไม้เพื่อการลดน้ำหนักที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ เพราะปริมาณ 1
ถ้วยให้พลังงานเพียง 49 แคลอรี เท่านั้น
และยังอุดมด้วยไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มท้องและช่วยระบบการขับถ่าย
6.ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน ช่วยรักษาแผลในปาก ช่วยดับกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่น
7.ใบสดของสตรอเบอร์รี ยังสามารถนำมาโขลกแล้วนำไปประคบ ช่วยลดอาการอักเสบและบวมช้ำได้อีกด้วย
ถ้าจะให้ได้ประโยชน์จากสตรอว์เบอร์รีอย่างสูงสุด ควรรับประทานแบบสดแทนที่จะเป็นแบบผลไม้กวน (Jam) เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อันใดแล้ว ยังมีน้ำตาลเยอะเกินไป ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
6.ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน ช่วยรักษาแผลในปาก ช่วยดับกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่น
7.ใบสดของสตรอเบอร์รี ยังสามารถนำมาโขลกแล้วนำไปประคบ ช่วยลดอาการอักเสบและบวมช้ำได้อีกด้วย
ถ้าจะให้ได้ประโยชน์จากสตรอว์เบอร์รีอย่างสูงสุด ควรรับประทานแบบสดแทนที่จะเป็นแบบผลไม้กวน (Jam) เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อันใดแล้ว ยังมีน้ำตาลเยอะเกินไป ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
22 กุมภาพันธ์ 2014
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
22 กุมภาพันธ์ 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น