ข้อมูลโดย Wikipedia
ประเทศอาเฆนตีนา (Argentina) ใช้ภาษา "สเปน" (El español - เอล เอสปันยอล) เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติอาร์เฆนตีนามีฉายาคือ La Albiceleste (ลา อัลบิเซเลสเต - ทีมสีขาวและสีท้องฟ้า) ส่วนชาวไทยตั้งฉายาให้ไม่ต่างกันว่า "ทีมฟ้าขาว" ตามลายเสื้อของทีมชาติอาร์เฆนตีนา
ทีมชาติอาร์เฆนตีนามีฉายาคือ La Albiceleste (ลา อัลบิเซเลสเต - ทีมสีขาวและสีท้องฟ้า) ส่วนชาวไทยตั้งฉายาให้ไม่ต่างกันว่า "ทีมฟ้าขาว" ตามลายเสื้อของทีมชาติอาร์เฆนตีนา
ปัจจุบัน ทีมชาติอาร์เฆนตีนามีอันดับโลกอยู่ที่ 6 ของ FIFA Ranking
ฟุตบอลทีมชาติอาร์เฆนตีนา เป็นทีมที่ถือว่าประสบความสำเร็จทีมหนึ่งของโลก โดยมีผลงานที่โดดเด่นคือชนะเลิศฟุตบอลโลก 2 ครั้ง ในฟุตบอลโลกปี 1978 และฟุตบอลโลก 1986 ทั้งยังชนะเลิศการแข่งขันในระดับภูมิภาค โคปาอเมริกาถึง 14 ครั้ง
นอกจากนั้นยังชนะเลิศคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 1 ครั้ง เคยได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิก 2 ครั้ง ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และ โอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 ที่ไป่จิง ประเทศจีน และได้เหรียญเงิน 2 ครั้ง ใน โอลิมปิกฤดูร้อน 1928 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ โอลิมปิกฤดูร้อนปี 1996 ที่แอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา บอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 16 ของพวกเขา
ถ้าเส้นทางบอลโลก 2014 ของทีมชาติฝรั่งเศสในกลุ่ม E เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เส้นทางของทีมชาติอาร์เฆนตีนาในกลุ่ม F ต้องเรียกว่า "ปูพรมแดง" ให้เดินกันเลยทีเดียว เพราะอยู่ร่วมสายกับทีมชาติไนจีเรีย , บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และอิหร่าน ซึ่งชื่อชั้นทางกีฬาฟุตบอลเอาไปเทียบกับทีมชาติอาร์เฆนตีนาไม่ได้เลย หากพวกเขาไม่ชนะทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่มคงโดนแฟนบอลทั่วโลกด่าจมดินแน่นอน
นอกจากนั้น หากทีมชาติอาร์เฆนตีนาผ่านเข้าสู่รอบ Knockout
ก็จะไขว้เจอกับทีมที่ 2 ในกลุ่ม E อีกต่างหาก
หากทีมชาติฝรั่งเศสไม่บ้อท่าทะลึ่งมาเป็นที่ 2 ของกลุ่ม
ทีมชาติอาร์เฆนตีนาก็น่าจะเจอกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ หรือไม่ก็เอกวาโดร์
ซึ่งไม่เหนือบ่ากว่าแรงของทีมชาติอาร์เฆนตีนาเลย
และถ้าในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมใหญ่มาตามนัดกันทุกทีม ทีมชาติอาร์เฆนตีนาก็จะเจอกับทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งถือว่าเป็นของแข็งพอสมควร แต่ก็คงไม่หนักหนาสาหัสเท่าทีมชาติฝรั่งเศสที่จะต้องเจอกับทีมชาติเยอรมันแน่นอน โอกาสที่ทีมชาติอาร์เฆนตีนาจะเข้ารอบ Quarter final (4 ทีมสุดท้าย) เป็นอย่างน้อยในฟุตบอลโลกปี 2014 จึงเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว
ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา (Bosnia & Herzegovina)
ใช้ภาษา босански (บอสซันสกี - ภาษาบอสเนียน) , hrvatski (คาร์วัตสกี้ -
ภาษาโครแอ็ต) และภาษา српски (ซเริปสกี - ภาษาเซอร์เบียน) เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินามีฉายาคือ Zlatni Ljiljani (ซลัตนี ลิลลียานี แปลว่า "ดอกลิลลี่สีทอง") และ Zmajevi (ซมาเยวี แปลว่า "มังกร")
ฟุตบอลทีมชาติอาร์เฆนตีนา เป็นทีมที่ถือว่าประสบความสำเร็จทีมหนึ่งของโลก โดยมีผลงานที่โดดเด่นคือชนะเลิศฟุตบอลโลก 2 ครั้ง ในฟุตบอลโลกปี 1978 และฟุตบอลโลก 1986 ทั้งยังชนะเลิศการแข่งขันในระดับภูมิภาค โคปาอเมริกาถึง 14 ครั้ง
นอกจากนั้นยังชนะเลิศคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 1 ครั้ง เคยได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิก 2 ครั้ง ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และ โอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 ที่ไป่จิง ประเทศจีน และได้เหรียญเงิน 2 ครั้ง ใน โอลิมปิกฤดูร้อน 1928 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ โอลิมปิกฤดูร้อนปี 1996 ที่แอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา บอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 16 ของพวกเขา
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติอาร์เฆตีนา*
ถ้าเส้นทางบอลโลก 2014 ของทีมชาติฝรั่งเศสในกลุ่ม E เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เส้นทางของทีมชาติอาร์เฆนตีนาในกลุ่ม F ต้องเรียกว่า "ปูพรมแดง" ให้เดินกันเลยทีเดียว เพราะอยู่ร่วมสายกับทีมชาติไนจีเรีย , บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และอิหร่าน ซึ่งชื่อชั้นทางกีฬาฟุตบอลเอาไปเทียบกับทีมชาติอาร์เฆนตีนาไม่ได้เลย หากพวกเขาไม่ชนะทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่มคงโดนแฟนบอลทั่วโลกด่าจมดินแน่นอน
และถ้าในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมใหญ่มาตามนัดกันทุกทีม ทีมชาติอาร์เฆนตีนาก็จะเจอกับทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งถือว่าเป็นของแข็งพอสมควร แต่ก็คงไม่หนักหนาสาหัสเท่าทีมชาติฝรั่งเศสที่จะต้องเจอกับทีมชาติเยอรมันแน่นอน โอกาสที่ทีมชาติอาร์เฆนตีนาจะเข้ารอบ Quarter final (4 ทีมสุดท้าย) เป็นอย่างน้อยในฟุตบอลโลกปี 2014 จึงเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว
ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินามีฉายาคือ Zlatni Ljiljani (ซลัตนี ลิลลียานี แปลว่า "ดอกลิลลี่สีทอง") และ Zmajevi (ซมาเยวี แปลว่า "มังกร")
ปัจจุบัน ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินามีอันดับโลกอยู่ที่ 25 ของ FIFA Ranking
ขุนพลดอกลิลลี่สีทองลงทำศึกรอบคัดเลือกในกลุ่ม G ด้วยการอยู่ร่วมสายเดียวกับทีมชาติ กรีซ (Greece), สโลวาเกีย (Slovakia), ลิทัวเนีย (Lithuania), ลัตเวีย (Latvia) และ ลิคเตนสไตน์ (Liechtenstein) ซึ่งผ่านเข้ารอบมาได้ ด้วยผลงาน แข่ง 10 นัด ชนะ 8 เสมอ และ แพ้ อย่างละ 1 มี 25 คะแนน เฉือนเอาชนะ กรีซ รองจ่าฝูงด้วยผลประตูได้เสีย ส่งผลให้พวกเขาได้เข้ามเล่นในรายการฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
นักเตะของทีมชาติบอสเนียฯ ส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในประเทศเยอรมัน
แม้จะไม่ใช่ทีมใหญ่
แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก แต่ถ้าเทียบตัวผู้เล่นกับทีมชาติไนจีเรียแล้ว
ก็ยังห่างกันหลายขุมอยู่ดี อีกทั้งประสบการณ์ในฟุตบอลโลกก็ยังไม่มี
ทีมของพวกเขาจึงน่าจะเล่นเพื่อแย่งเป็นอันดับที่ 3
ของกลุ่มเพื่อแฟนบอลของตัวเองมากกว่า
ทีมชาติอิหร่าน (Iran) ใช้ภาษา "เปอร์เซีย" เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติอิหร่านมีฉายาว่า The Iranian Lions (ฝูงสิงโตแห่งอิหร่าน) และ The Princes of Persia (เหล่าเจ้าชายแห่งเปอร์เซีย)
ปัจจุบัน ทีมชาติอิหร่านมีอันดับโลกอยู่ที่ 37 ของ FIFA Ranking
ฟุตบอลทีมชาติอิหร่าน เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จทีมหนึ่งในทวีปเอเชีย
โดยชนะเลิศเอเชียนคัพ 3 ครั้ง ส่วนในระดับโลก
ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
ความจริงแล้ว ทีมชาติอิหร่านไม่ได้อยู่ในสายที่แข็งแกร่งเท่าไรนัก ยกเว้นทีมชาติอาร์เฆนตีนา แต่ถึงอย่างไร โอกาสที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในฐานะที่ 2 ของกลุ่มก็ยังเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขาอยู่ดี เพราะนักเตะของทีมชาติอิหร่าน เกือบทั้งหมดค้าแข้งอยู่ในแต่ประเทศของตัวเอง หรือไม่ก็ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ประสบการณ์ในระดับโลกคงสู้ทีมร่วมสายไม่ได้แน่ ที่พอจะหวังได้สำหรับพวกเขาคือการแย่งเป็นที่ 3 ของกลุ่มกับทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา กับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศบราซิล ได้เพียงเท่านั้น
ทีมชาติไนจีเรีย (Nigeria) ใช้ภาษา "อังกฤษ" (English) เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติไนจีเรียมีฉายาคือ Super Eagles (อินทรีย์ชั้นเลิศ) ส่วนคนไทยตั้งฉายาให้คล้ายกันว่า "อินทรีย์มรกต" ตามสีเสื้อของทีมชาติไนจีเรียที่มีสีเขียว
ขุนพลดอกลิลลี่สีทองลงทำศึกรอบคัดเลือกในกลุ่ม G ด้วยการอยู่ร่วมสายเดียวกับทีมชาติ กรีซ (Greece), สโลวาเกีย (Slovakia), ลิทัวเนีย (Lithuania), ลัตเวีย (Latvia) และ ลิคเตนสไตน์ (Liechtenstein) ซึ่งผ่านเข้ารอบมาได้ ด้วยผลงาน แข่ง 10 นัด ชนะ 8 เสมอ และ แพ้ อย่างละ 1 มี 25 คะแนน เฉือนเอาชนะ กรีซ รองจ่าฝูงด้วยผลประตูได้เสีย ส่งผลให้พวกเขาได้เข้ามเล่นในรายการฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา*
ทีมชาติอิหร่าน (Iran) ใช้ภาษา "เปอร์เซีย" เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติอิหร่านมีฉายาว่า The Iranian Lions (ฝูงสิงโตแห่งอิหร่าน) และ The Princes of Persia (เหล่าเจ้าชายแห่งเปอร์เซีย)
ปัจจุบัน ทีมชาติอิหร่านมีอันดับโลกอยู่ที่ 37 ของ FIFA Ranking
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติอิหร่าน*
ความจริงแล้ว ทีมชาติอิหร่านไม่ได้อยู่ในสายที่แข็งแกร่งเท่าไรนัก ยกเว้นทีมชาติอาร์เฆนตีนา แต่ถึงอย่างไร โอกาสที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในฐานะที่ 2 ของกลุ่มก็ยังเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขาอยู่ดี เพราะนักเตะของทีมชาติอิหร่าน เกือบทั้งหมดค้าแข้งอยู่ในแต่ประเทศของตัวเอง หรือไม่ก็ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ประสบการณ์ในระดับโลกคงสู้ทีมร่วมสายไม่ได้แน่ ที่พอจะหวังได้สำหรับพวกเขาคือการแย่งเป็นที่ 3 ของกลุ่มกับทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา กับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศบราซิล ได้เพียงเท่านั้น
ทีมชาติไนจีเรีย (Nigeria) ใช้ภาษา "อังกฤษ" (English) เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติไนจีเรียมีฉายาคือ Super Eagles (อินทรีย์ชั้นเลิศ) ส่วนคนไทยตั้งฉายาให้คล้ายกันว่า "อินทรีย์มรกต" ตามสีเสื้อของทีมชาติไนจีเรียที่มีสีเขียว
ปัจจุบัน ทีมชาติไนจีเรียมีอันดับโลกอยู่ที่ 45 ของ FIFA Ranking
จากข้อมูลของอันดับโลกฟีฟ่า ทีมชาติไนจีเรียเคยติดอันดับสูงสุดที่อันดับ 5 เมื่อปี 1994 พวกเขายังเคยได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ในรายการฟุตบอลโลกปี 2014 ลงทำศึกรอบคัดเลือกรอบ 2 ด้วยการอยู่ร่วมสายเดียวกับ มาลาวี (Malawi), เคนยา (Kenya) และ นามิเบีย (Namibia) ซึ่งผ่านเข้ารอบมาได้ ด้วยผลงาน แข่ง 6 นัด ชนะ 3 เสมอ 3 มี 12 คะแนน และเข้ารอบสุดท้ายด้วยการ เอาชนะ เอธิโอเปีย (Ethiopia) ในรอบคัดเลือกรอบสาม ด้วยสกอร์รวม 4-1 (2-1, 2-0) นับเป็นครั้งที่ 5 ที่พวกเขาได้เข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก
ดูจากทีมร่วมสายของทีมชาติไนจีเรียแล้ว ในปี 2014 นี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทีมชาติไนจีเรียจะผ่านเข้าสู่รอบ Knockout ต่อไป เพราะในกลุ่ม F มีทีมที่พวกเขาเป็นรองแค่ทีมเดียวคือทีมชาติอาร์เฆนตีนา ส่วนอีก 2 ทีมคือ ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และอิหร่าน มีตัวผู้เล่นเทียบชั้นกับพวกเขาไม่ได้เลย ทีมชาติไนจีเรียจึงน่าจะผ่านเข้ารอบไปเจอทีมชาติฝรั่งเศสในรอบ 16 ทีมได้ค่อนข้างแน่
จากข้อมูลของอันดับโลกฟีฟ่า ทีมชาติไนจีเรียเคยติดอันดับสูงสุดที่อันดับ 5 เมื่อปี 1994 พวกเขายังเคยได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ในรายการฟุตบอลโลกปี 2014 ลงทำศึกรอบคัดเลือกรอบ 2 ด้วยการอยู่ร่วมสายเดียวกับ มาลาวี (Malawi), เคนยา (Kenya) และ นามิเบีย (Namibia) ซึ่งผ่านเข้ารอบมาได้ ด้วยผลงาน แข่ง 6 นัด ชนะ 3 เสมอ 3 มี 12 คะแนน และเข้ารอบสุดท้ายด้วยการ เอาชนะ เอธิโอเปีย (Ethiopia) ในรอบคัดเลือกรอบสาม ด้วยสกอร์รวม 4-1 (2-1, 2-0) นับเป็นครั้งที่ 5 ที่พวกเขาได้เข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติไนจีเรีย*
ดูจากทีมร่วมสายของทีมชาติไนจีเรียแล้ว ในปี 2014 นี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทีมชาติไนจีเรียจะผ่านเข้าสู่รอบ Knockout ต่อไป เพราะในกลุ่ม F มีทีมที่พวกเขาเป็นรองแค่ทีมเดียวคือทีมชาติอาร์เฆนตีนา ส่วนอีก 2 ทีมคือ ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และอิหร่าน มีตัวผู้เล่นเทียบชั้นกับพวกเขาไม่ได้เลย ทีมชาติไนจีเรียจึงน่าจะผ่านเข้ารอบไปเจอทีมชาติฝรั่งเศสในรอบ 16 ทีมได้ค่อนข้างแน่
Únete al grupo de Facebook "Club de las lenguas occidentales de la Universidad de Ramkhamhaeng" al https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
13 พฤษภาคม 2014
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
13 พฤษภาคม 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น