ข้อมูลโดย Wikipedia
กลุ่ม H ประกอบด้วย
ประเทศเเอลจีเรีย (Algeria) มีภาษาราชการคือภาษา "อาหรับ" และ "ฝรั่งเศส" (Français - ฟรองแซ)
ทีมชาติเเอลจีเรียมีฉายาว่า Les Fennecs (เล เฟนแน็ค - เหล่าสุนัขจิ้งจอกทะเลทราย)
ปัจจุบัน ทีมชาติแอลจีเรียมีอันดับโลกอยู่ที่ 25 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติแอลจีเรีย อีก 1 ทีมจากทวีปแอฟริกา เข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกได้ 4 ครั้ง คือในปี 1982 , 1986 , 2010 และปี 2014 ทีมชาติแอลจีเรียยังชนะในการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 1 ครั้งในปี 1990 ด้วยการเป็นประเทศเจ้าภาพ
แม้นักเตะทีมชาติแอลจีเรียจะไปค้าแข้งในทวีปยุโรปมากพอสมควร
แต่ก็เป็นทีมใหญ่อยู่ไม่กี่ทีม
ถ้าเทียบนักเตะกันตัวต่อตัวกับทีมเต็งแชมป์กลุ่มอย่างทีมชาติรัสเซีย
และเบลเยี่ยมแล้ว คงต้องบอกว่าสู้กันไม่ได้
แถมโค้ชของพวกเขาก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในระดับสากล ดูตามเนื้อผ้าแล้ว
ทีมชาติแอลจีเรียคงได้แค่แย่งกันเป็นที่ 3
ของกลุ่มกับทีมชาติเกาหลีใต้นั่นแหละ
ประเทศเบลเยี่ยม (België - เบลฆีเอ "ภาษาดัตช์" , Belgique - เบลชีก
"ภาษาฝรั่งเศส" และ Belgien - เบลเกียน "ภาษาเยอรมัน")
ภาษาราชการมี 3
ภาษาคือ
1.ภาษาฮอลันดา (Dutch - ดัตช์)
2.ภาษาฝรั่งเศส (Français - ฟรองแซ)
3.ภาษาเยอรมัน (Deutsch - ดอยช์)
ทีมชาติเบลเยี่ยมมีฉายาว่า Rode
Duivels (โรเดอ ไดเฟลส์ - ดัตช์) Diables Rouges (เดียเบลอ โครช -
ฝรั่งเศส) และ Rote Teufel (โรเทอ ทอยเฟิล - เยอรมัน) ทุกภาษาแปลว่า
"ทีมปีศาจแดง"
ปัจจุบัน ทีมชาติเบลเยี่ยมมีอันดับโลกอยู่ที่ 12 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติเบลเยียม คือทีมชั้นแนวหน้าของวงการลูกหนังปี 1980 พวกเขาเป็นรองแชมป์ยุโรป ตำแหน่งที่ยักษ์ใหญ่บางชาติไม่เคยได้สัมผัส และอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 1986 ได้เหรียญทองโอลิมปิก 1920 ดาวดังสมัยนั้นคือ แต่พวกเขากลับรักษามาตรฐานการเล่นไม่ได้
โดยเฉพาะศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งนับจากปี 1984 ก็ไม่เคยเข้ารอบสุดท้ายอีกเลย ยกเว้น ยูโร 2000 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับ ฮอลแลนด์ ส่วนฟุตบอลโลก ถัดจากปี 1986 ก็เข้ารอบสุดท้าย 4 ครั้ง แต่ไปไกลสุดแค่รอบ 2 ยุคสุดท้าย ที่ไปในประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกันในปี 2002 แต่พอหมดรุ่นนี้แล้ว ทีมชาติเบลเยียมก็ตกต่ำมาตลอด บอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 ของพวกเขา
หลังจากที่ทีมชาติเบลเยี่ยม ตกต่ำมานาน ยุคนี้พวกเขาจะได้ลืมตาอ้าปากซะที เพราะทีมชาติเบลเยี่ยมยุคนี้เต็มไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดีหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในทีมสโมสรใหญ่ของประเทศอังกฤษ และอาจกล่าวได้ว่า ตัวผู้เล่นโดยรวมของพวกเขาดีกว่าทุกทีมร่วมกลุ่มด้วยซ้ำ ประกอบกับทีมชาติเบลเยี่ยมได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่เเข็งมาก ที่มีทีมชาติรัสเซีย , แอลจีเรีย และเกาหลีใต้ เพียงแต่โค้ชของพวกเขา Marc Wilmots (มาร์ค วิลโมท์) ยังคงต้องรอการพิสูจน์ตัวเอง ว่าจะวางแผนการเล่นได้ดีเพียงไร
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าทีมชาติเบลเยี่ยมน่าเข้ารอบต่อไปค่อนข้างแน่ เพราะสภาพทีมโดยรวมก็ยังคงดีกว่าทีมชาติแอลจีเรีย และเกาหลีใต้มาก ปัญหาคือรอบต่อไป ไม่ว่าพวกเขาจะเข้าเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ของสาย พวกเขาน่าจะเจอทีมชาติเยอรมันหรือไม่ก็โปรตุเกส ซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวว่าพวกเขาจะไปได้ไกลกว่ารอบ 16 ทีม
ประเทศรัสเซีย (Россия - รัสซียา) ใช้ภาษารัสเซีย (русский язык - รุสสกีย์ ยีซึก) เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติรัสเซียมีฉายาว่า Сборная команда (สโบร์นายา กามันดา - คณะขุนพล) , Трёхцветные (โตรค์สเวียทเนีย - ทีมสามสี) , Медведи (มีดวีดี - พวกหมี) และ Русская дружина (รุสการยา ดรูชีนา - ทีมของรัสเซีย) ส่วนคนไทยพอเห็นประเทศรัสเซียมีหมีขั้วโลกเยอะก็เลยตั้งให้ว่าทีม "หมีขาว" ทันที
ปัจจุบัน ทีมชาติรัสเซียมีอันดับโลกอยู่ที่ 18 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติรัสเซีย ก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกในยุคจักรวรรดิรัสเซียในนามทีมชาติจักรวรรดิรัสเซีย ต่อมาได้มีการก่อตั้งเป็นสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นอาณาจักรใหญ่ ทีมชาติสหภาพโซเวียตจึงมีความแข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จมากมาย เคยได้อันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 1966 และแชมป์ยุโรป 1960 หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1991 ได้มีการแตกออกเป็นประเทศต่าง ๆ มากมาย ทีมชาติรัสเซียได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกในกรุงมอสโก โดยใช้ผู้เล่นเดิมจากทีมชาติสหภาพโซเวียตเป็นหลัก ฟีฟ่าจึงได้พิจารณาให้ทีมชาติรัสเซีย เป็นทีมที่ต่อมาจากทีมชาติสหภาพโซเวียต และทีมชาติเครือรัฐเอกราช ตามลำดับ
ทีมชาติรัสเซียได้เข้าร่วมการแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยครั้งแรกในปี 1958 และร่วมแข่งขันในฟุตบอลยูโร 9 ครั้ง โดยได้แชมป์ในการเข้าร่วมครั้งแรก คือ ยูโร 1960
ทีมชาติรัสเซียโชคดีได้อยู่ในสายที่อ่อนมาก ประกอบด้วยทีมชาติเบลเยียม , แอลจีเรีย และเกาหลีใต้ แม้นักเตะส่วนใหญ่ของพวกเขาค้าแข้งอยู่ในประเทศตัวเอง แต่ได้โค้ชชื่อดังและมากประสบการณ์ผู้ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างมากมายคือ Fabio Capello (ฟาบิโอ กาเปลโล) ชาวอิตาลี ฉะนั้นการที่จะเป็นแชมป์กลุ่ม H จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาเลย
แต่เมื่อพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแล้วต่างหาก ที่จะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาอย่างแท้จริง เพราะอาจจะได้พบกับทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งคับคั่งไปด้วยนักเตะระดับโลกมากมาย ซึ่งดูจากองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว พวกเขาคงหยุดเส้นทางฟุตบอลโลกไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในที่สุด
ทีมชาติเบลเยียม คือทีมชั้นแนวหน้าของวงการลูกหนังปี 1980 พวกเขาเป็นรองแชมป์ยุโรป ตำแหน่งที่ยักษ์ใหญ่บางชาติไม่เคยได้สัมผัส และอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 1986 ได้เหรียญทองโอลิมปิก 1920 ดาวดังสมัยนั้นคือ แต่พวกเขากลับรักษามาตรฐานการเล่นไม่ได้
โดยเฉพาะศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งนับจากปี 1984 ก็ไม่เคยเข้ารอบสุดท้ายอีกเลย ยกเว้น ยูโร 2000 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับ ฮอลแลนด์ ส่วนฟุตบอลโลก ถัดจากปี 1986 ก็เข้ารอบสุดท้าย 4 ครั้ง แต่ไปไกลสุดแค่รอบ 2 ยุคสุดท้าย ที่ไปในประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกันในปี 2002 แต่พอหมดรุ่นนี้แล้ว ทีมชาติเบลเยียมก็ตกต่ำมาตลอด บอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 ของพวกเขา
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติเบลเยี่ยม*
หลังจากที่ทีมชาติเบลเยี่ยม ตกต่ำมานาน ยุคนี้พวกเขาจะได้ลืมตาอ้าปากซะที เพราะทีมชาติเบลเยี่ยมยุคนี้เต็มไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดีหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในทีมสโมสรใหญ่ของประเทศอังกฤษ และอาจกล่าวได้ว่า ตัวผู้เล่นโดยรวมของพวกเขาดีกว่าทุกทีมร่วมกลุ่มด้วยซ้ำ ประกอบกับทีมชาติเบลเยี่ยมได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่เเข็งมาก ที่มีทีมชาติรัสเซีย , แอลจีเรีย และเกาหลีใต้ เพียงแต่โค้ชของพวกเขา Marc Wilmots (มาร์ค วิลโมท์) ยังคงต้องรอการพิสูจน์ตัวเอง ว่าจะวางแผนการเล่นได้ดีเพียงไร
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าทีมชาติเบลเยี่ยมน่าเข้ารอบต่อไปค่อนข้างแน่ เพราะสภาพทีมโดยรวมก็ยังคงดีกว่าทีมชาติแอลจีเรีย และเกาหลีใต้มาก ปัญหาคือรอบต่อไป ไม่ว่าพวกเขาจะเข้าเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ของสาย พวกเขาน่าจะเจอทีมชาติเยอรมันหรือไม่ก็โปรตุเกส ซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวว่าพวกเขาจะไปได้ไกลกว่ารอบ 16 ทีม
ประเทศรัสเซีย (Россия - รัสซียา) ใช้ภาษารัสเซีย (русский язык - รุสสกีย์ ยีซึก) เป็นภาษาราชการ
ทีมชาติรัสเซียมีฉายาว่า Сборная команда (สโบร์นายา กามันดา - คณะขุนพล) , Трёхцветные (โตรค์สเวียทเนีย - ทีมสามสี) , Медведи (มีดวีดี - พวกหมี) และ Русская дружина (รุสการยา ดรูชีนา - ทีมของรัสเซีย) ส่วนคนไทยพอเห็นประเทศรัสเซียมีหมีขั้วโลกเยอะก็เลยตั้งให้ว่าทีม "หมีขาว" ทันที
ปัจจุบัน ทีมชาติรัสเซียมีอันดับโลกอยู่ที่ 18 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติรัสเซีย ก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกในยุคจักรวรรดิรัสเซียในนามทีมชาติจักรวรรดิรัสเซีย ต่อมาได้มีการก่อตั้งเป็นสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นอาณาจักรใหญ่ ทีมชาติสหภาพโซเวียตจึงมีความแข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จมากมาย เคยได้อันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 1966 และแชมป์ยุโรป 1960 หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1991 ได้มีการแตกออกเป็นประเทศต่าง ๆ มากมาย ทีมชาติรัสเซียได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกในกรุงมอสโก โดยใช้ผู้เล่นเดิมจากทีมชาติสหภาพโซเวียตเป็นหลัก ฟีฟ่าจึงได้พิจารณาให้ทีมชาติรัสเซีย เป็นทีมที่ต่อมาจากทีมชาติสหภาพโซเวียต และทีมชาติเครือรัฐเอกราช ตามลำดับ
ทีมชาติรัสเซียได้เข้าร่วมการแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยครั้งแรกในปี 1958 และร่วมแข่งขันในฟุตบอลยูโร 9 ครั้ง โดยได้แชมป์ในการเข้าร่วมครั้งแรก คือ ยูโร 1960
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติรัสเซีย*
ทีมชาติรัสเซียโชคดีได้อยู่ในสายที่อ่อนมาก ประกอบด้วยทีมชาติเบลเยียม , แอลจีเรีย และเกาหลีใต้ แม้นักเตะส่วนใหญ่ของพวกเขาค้าแข้งอยู่ในประเทศตัวเอง แต่ได้โค้ชชื่อดังและมากประสบการณ์ผู้ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างมากมายคือ Fabio Capello (ฟาบิโอ กาเปลโล) ชาวอิตาลี ฉะนั้นการที่จะเป็นแชมป์กลุ่ม H จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาเลย
แต่เมื่อพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแล้วต่างหาก ที่จะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาอย่างแท้จริง เพราะอาจจะได้พบกับทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งคับคั่งไปด้วยนักเตะระดับโลกมากมาย ซึ่งดูจากองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว พวกเขาคงหยุดเส้นทางฟุตบอลโลกไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในที่สุด
ประเทศเเอลจีเรีย (Algeria) มีภาษาราชการคือภาษา "อาหรับ" และ "ฝรั่งเศส" (Français - ฟรองแซ)
ทีมชาติเเอลจีเรียมีฉายาว่า Les Fennecs (เล เฟนแน็ค - เหล่าสุนัขจิ้งจอกทะเลทราย)
ปัจจุบัน ทีมชาติแอลจีเรียมีอันดับโลกอยู่ที่ 25 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติแอลจีเรีย อีก 1 ทีมจากทวีปแอฟริกา เข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกได้ 4 ครั้ง คือในปี 1982 , 1986 , 2010 และปี 2014 ทีมชาติแอลจีเรียยังชนะในการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 1 ครั้งในปี 1990 ด้วยการเป็นประเทศเจ้าภาพ
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติเเอลจีเรีย*
ประเทศเกาหลีใต้ (South Korea) มีภาษาราชการคือ "ภาษาเกาหลี"
ทีมชาติเกาหลีใต้มีฉายาว่า นักรบแทกึก (Taeguk ซึ่งเป็นชื่อของธงชาติของประเทศเกาหลีใต้) ส่วนไทยเราก็ตั้งฉายาให้ว่าทีม "โสมขาว"
ปัจจุบัน ทีมชาติเกาหลีใต้มีอันดับโลกอยู่ที่ 56 ของ FIFA Ranking
ในระดับโลกนั้น ทีมชาติเกาหลีใต้
ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 พวกเขาเคยได้อันดับ 4
ในฟุตบอลโลกปี 2002
ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของฟุตบอลทีมชาติของทวีปเอเชียในรายการฟุตบอลโลกอีก
ด้วย ส่วนผลงานในระดับเอเชียนั้น เกาหลีใต้ชนะเอเชียนคัพ 2 ครั้ง ในปี 1956
และ 1960
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติเกาหลีใต้*
ด้วยองค์ประกอบของทีมชาติเกาหลีใต้แล้ว คงต้องบอกว่าเป็นรองทีมชาติรัสเซีย
และทีมชาติเบลเยี่ยม คู่แข่งร่วมสายในเกือบทุกด้าน ทั้งฝีเท้าของนักเตะ
และประสบการณ์ของโค้ช จึงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้
ที่พอจะช่วยเกื้อหนุนให้พวกเขาบ้างก็คือกองเชียร์ชาวเกาหลีใต้ที่เหนียวแน่น
ในทีมชาติของตัวเองเท่านั้น
สิ่งที่หวังได้มากที่สุดสำหรับบอลโลกครั้งนี้ของพวกเขา คือการได้ตำแหน่งที่
3 ของกลุ่มมากกว่า
Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
15 พฤษภาคม 2014
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
15 พฤษภาคม 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น