ข้อมูลโดย Wikipedia
กลุ่ม A ประกอบด้วย
ประเทศบราซิล (Brasil) พูดภาษา "โปรตุเกส" (O português - อู โปรตุเกส) เป็นภาษาราชการ
ฟุตบอลทีมชาติบราซิล ได้รับฉายาว่า Seleção (เซเลเซา - ภาษาโปรตุเกสหมายถึง "ผู้ที่ถูกเลือก หรือบุคคลที่ได้รับเลือก") แต่ชื่อที่รู้จักโดยทั่วไปและแฟนฟุตบอลชาวไทยก็นิยมเรียกคือ ทีม Samba (แซมบ้า) อันมาจากเพลงยอดฮิตของประเทศบราซิลในสมัยก่อน
ปัจจุบัน ทีมชาติบราซิลอันดับโลกอยู่ที่ 9 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติบราซิลเป็นฟุตบอลทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เคยชนะเลิศในรายการฟุตบอลโลก (World cup) มาแล้ว 5 ครั้ง (1958, 1962, 1970, 1994, 2002)
*เส้นทางบอลโลกปี 2014 ของทีมชาติบราซิล*
ทีมชาติบราซิลอยู่ในกลุ่ม A ซึ่งมีทีมชาติโครเอเชีย , เม็กซิโก และแคเมอรูน อยู่ร่วมสาย ดูจากทีมคู่แข่งแล้ว ไม่น่าจะเป็นการยากของทีมชาติบราซิลเลย ที่จะเข้าสู่รอบ Knockout ด้วยฐานะแชมป์กลุ่ม
แต่เส้นทางสู่แชมป์ฟุตบอลโลกของพวกเขาตั้งแต่รอบ Knockout คราวนี้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบซะแล้ว เพราะรอบ 16 ทีม ทีมชาติบราซิลอาจจะต้องเจอแชมป์โลกปี 2010 อย่าง ทีมชาติ "สเปน" หรือไม่ก็ รองแชมป์โลกปีเดียวกันอย่างทีมชาติ "ฮอลแลนด์" งานนี้เปรียบดั่งการดูหนังระทึกขวัญสำหรับแฟนบอลทีมชาติบราซิลแน่นอน
ฟุตบอลทีมชาติเม็กซิโกมีฉายาว่า El Tricolor (เอล ตริโกโลร์ - ทีม 3 สี หรือเรียกสั้น ๆ ว่า El Tri - เอล ติ) หรือ La Verde (ลา เบร์เด - ทีมสีเขียว) ส่วนคนไทยตั้งฉายาให้ว่า "จังโก้" ที่มาจากคำว่า “Django” ซึ่งเป็นภาษาในตระกูลอินโด-อารยัน แปลว่า “I awake - ฉันรู้สึกตื่นตัว”
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์คาวบอยประเทศอิตาลีในชื่อเรื่องเดียวกันว่า "Django" ของผู้กำกับ Sergio Corbucci (เซร์จิโอ โกร์บุชชี) ซึ่งเข้าฉายในไทยเมื่อราว 40 ปีที่แล้ว ใช้ชื่อภาษาไทยว่า “จังโก้ ยอดคนแดนเถื่อน” โดยมีสถานที่ในประเทศเม็กซิโกเป็นฉากหลังของเรื่อง ทำให้คนไทยนำมาตั้งเป็นฉายาให้ทีมชาติเม็กซิโก
ปัจจุบัน ทีมชาติเม็กซิโกมีอันดับโลกอยู่ที่ 19 ของ FIFA Ranking
ทีมชาติเม็กซิโกเข้ารอบฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 และเข้ารอบทุกครั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ถือเป็นทีมฟุตบอลที่มีผลงานสม่ำเสมอมากทีมหนึ่ง แม้ไม่ใช่ทีมเต็งเเชมป์
สถิติที่ดีที่สุดของทีมชาติเม็กซิโกคือติดรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้งในปี 1970 และ 1986 ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง ประเทศเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ
ทีมชาติเม็กซิโกเคยเป็นแชมป์ฟุตบอลรายการคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 1 ครั้ง, โกลด์คัพ 5 ครั้ง, คอนแคแคฟแชมเปียนชิพ 3 ครั้ง, นอร์ทอเมริกันเนชันส์คัป 1 ครั้งและ เอ็นเอเอฟซีแชมเปียนชิป 2 ครั้ง
ทีมชาติเม็กซิโกอยู่ในกลุ่ม A ซึ่งมีทีมชาติบราซิล , โครเอเชีย, และแคเมอรูน อยู่ร่วมสาย ดูจากทีมคู่แข่งแล้ว อีกทีมที่น่าจะตามบราซิลเข้ารอบ Knockout น่าจะเป็นทีมชาติเม็กซิโกมากที่สุด ที่เป็นอย่างนั้นเพราะทีมชาติเม็กซิโก ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่มเลยนับแต่ปี 1994 ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มที่มีทีมยักษ์ใหญ่ และถูกปรามาสจากกูรูทั้งหลายว่าเป็นตัวเต็งตกรอบแบ่งกลุ่มมาโดยตลอด
ต้องบอกเลยว่าทีมชาติเม็กซิโกไม่ใช่ทีมหมูมาให้เชือด แต่เป็นทีม "หมูเขี้ยวตัน" ซะมากกว่า และเคยหักปากกาเซียนกูรูฟันธงในประเทศไทยมานักต่อนักแล้ว สาเหตุที่ทีมชาติเม็กซิโก มีผลงานดีสม่ำเสมอ เป็นเพราะ
1.เม็กซิโก เคยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกมา 2 ครั้งทำให้ประชาชนเม็กซิกันหลายคนชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และติดตามสนับสนุนทีมเสมอมา รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนเม็กซิกัน พัฒนาฝีเท้าเพื่อให้ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติอีกด้วย
2.เม็กซิโก มีนักเตะไปค้าแข้งต่างแดนมากมาย และมีไม่น้อยอยู่ในทีมสโมสรใหญ่ในทวีปยุโรป
3.เม็กซิโก เป็นทีมขาประจำที่ได้รับเชิญเข้าไปร่วมแข่งรายการ Copa America ของทวีปอเมริกาใต้เสมอมา มีโอกาสได้ลับฝีเท้ากับทีมยักษ์ใหญ่อย่างบราซิล , อาร์เจนตินา ฯลฯ ทำให้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะทีมชาติเม็กซิโกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เปรียบเสมือนทีมจากอเมริกาใต้ทีมหนึ่งเลยทีเดียว
แต่รอบแบ่งกลุ่มนี้ ถ้าพูดกันตามเนื้อผ้า ทีมชาติเม็กซิโกก็ไม่น่าจะเบียดทีมชาติบราซิลเป็นแชมป์กลุ่มได้แน่ และเมื่อดูจากรอบต่อไป ที่ต้องไปเจอกับทีมจากกลุ่ม B ซึ่งมีแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 อย่าง ทีมชาติ "สเปน" และรองแชมป์โลกปีเดียวกันอย่าง "ฮอลแลนด์" แย่งกันเป็นแชมป์กลุ่ม ก็ต้องขอสรุปว่า เส้นทางฝันของทีมชาติเม็กซิโกน่าจะจบลงที่รอบ 16 ทีมอีกเช่นเคย
ประเทศโครเอเชีย (Croatia) ใช้ภาษา "โครเอเชียน" (hrvatski - คาร์วัตสกี้) เป็นภาษาราชการ
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชียมีฉายาว่า Vatreni (วาเทรนี - เสื้อเบลเซอร์) แต่คนไทยเรา พอเห็นลายเสื้อทีมชาติของเขา ก็ตั้งฉายาให้ว่าทีม "ตราหมากรุก หรือหมากรุกพิฆาต"
ปัจจุบัน ทีมชาติโครเอเชียมีอันดับโลกอยู่ที่ 20 ของ FIFA Ranking
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย เคยเข้าร่วมฟุตบอลโลก 3 ครั้ง และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 4 ครั้ง
ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกคือได้ที่ 3 ในปี ค.ศ. 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเอาชนะเนเธอร์แลนด์ไปได้ 2-1 ในรอบชิงที่ 3
โครเอเชีย เป็นประเทศที่เกิดใหม่ช่วงที่เป็นรัฐอิสระระหว่างปี ค.ศ. 1940-ค.ศ. 1945 ได้ผนวกรวมตัวกับประเทศยูโกสลาเวีย แล้วแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระในปี ค.ศ. 1990 ทำให้ในยุคแรกนักฟุตบอลทีมชาติโครเอเชียจะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติยูโกสลาเวีย ทีมชาติโครเอเชียเข้าเป็นสมาชิกฟีฟ่าในปลายปี ค.ศ. 1992 และได้รับการจัดอันดับเป็นครั้งแรกโดยฟีฟ่าให้เป็นที่ 125 ของโลก เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994
ลักษณะเด่นของทีมชาติโครเอเชีย คือ ชุดที่สวมใส่ที่มีลายตารางหมากรุกสีขาวสลับแดง โดยสวมกางเกงขาว ถุงเท้าสีน้ำเงิน ขณะที่ชุดทีมเยือนจะเป็นสีน้ำเงินเข้มทั้งชุด มีแถบสามเหลี่ยมตาหมากรุกสีแดงจากคอและไหล่ซ้ายลงมาถึงแนวต่อของแขนเสื้อ ซึ่งทำให้ได้รับฉายาว่า "Vatreni" แปลว่า "เสื้อเบลเซอร์"
ทีมฟุตบอลโครเอเชียชุดปัจจุบัน อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีมากมายที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศสเปน , เยอรมัน และอิตาลี แต่ปัญหาคือความสามัคคี เพราะนักเตะโครแอตขึ้นชื่อเรื่องพฤติกรรมชอบทำตัวเป็นดาราเอาแต่ใจมาโดยตลอด ปัญหาของทีมจึงขึ้นอยู่กับตัวกุนซือว่าจะเอานักเตะของตัวเองอยู่หรือไม่ เพื่อให้ทุกคนตั้งใจเล่นกันเพื่อทีมให้ได้ และสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศเจ้าภาพบราซิล ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของนักเตะที่มาจากทวีปยุโรปเช่นพวกเขา
ยิ่งนัดแรกในรายการฟุตบอลโลก 2014 ในกลุ่ม A ของพวกเขา ต้องพบกับทีมชาติบราซิลที่กระหายชัยชนะนัดแรก เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยอีกต่างหาก การที่ทีมชาติโครเอเชียชุดนี้จะฝ่าด่านเข้าสู่รอบ Knockout จึงจำเป็นต้องอาศัยความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะเรื่องฝีเท้าของพวกเขามีดีพออยู่แล้ว
ทีมชาติเม็กซิโกเข้ารอบฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 และเข้ารอบทุกครั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ถือเป็นทีมฟุตบอลที่มีผลงานสม่ำเสมอมากทีมหนึ่ง แม้ไม่ใช่ทีมเต็งเเชมป์
สถิติที่ดีที่สุดของทีมชาติเม็กซิโกคือติดรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้งในปี 1970 และ 1986 ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง ประเทศเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ
ทีมชาติเม็กซิโกเคยเป็นแชมป์ฟุตบอลรายการคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 1 ครั้ง, โกลด์คัพ 5 ครั้ง, คอนแคแคฟแชมเปียนชิพ 3 ครั้ง, นอร์ทอเมริกันเนชันส์คัป 1 ครั้งและ เอ็นเอเอฟซีแชมเปียนชิป 2 ครั้ง
*เส้นทางบอลโลกปี 2014 ของเม็กซิโก*
ทีมชาติเม็กซิโกอยู่ในกลุ่ม A ซึ่งมีทีมชาติบราซิล , โครเอเชีย, และแคเมอรูน อยู่ร่วมสาย ดูจากทีมคู่แข่งแล้ว อีกทีมที่น่าจะตามบราซิลเข้ารอบ Knockout น่าจะเป็นทีมชาติเม็กซิโกมากที่สุด ที่เป็นอย่างนั้นเพราะทีมชาติเม็กซิโก ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่มเลยนับแต่ปี 1994 ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มที่มีทีมยักษ์ใหญ่ และถูกปรามาสจากกูรูทั้งหลายว่าเป็นตัวเต็งตกรอบแบ่งกลุ่มมาโดยตลอด
ต้องบอกเลยว่าทีมชาติเม็กซิโกไม่ใช่ทีมหมูมาให้เชือด แต่เป็นทีม "หมูเขี้ยวตัน" ซะมากกว่า และเคยหักปากกาเซียนกูรูฟันธงในประเทศไทยมานักต่อนักแล้ว สาเหตุที่ทีมชาติเม็กซิโก มีผลงานดีสม่ำเสมอ เป็นเพราะ
1.เม็กซิโก เคยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกมา 2 ครั้งทำให้ประชาชนเม็กซิกันหลายคนชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และติดตามสนับสนุนทีมเสมอมา รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนเม็กซิกัน พัฒนาฝีเท้าเพื่อให้ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติอีกด้วย
2.เม็กซิโก มีนักเตะไปค้าแข้งต่างแดนมากมาย และมีไม่น้อยอยู่ในทีมสโมสรใหญ่ในทวีปยุโรป
3.เม็กซิโก เป็นทีมขาประจำที่ได้รับเชิญเข้าไปร่วมแข่งรายการ Copa America ของทวีปอเมริกาใต้เสมอมา มีโอกาสได้ลับฝีเท้ากับทีมยักษ์ใหญ่อย่างบราซิล , อาร์เจนตินา ฯลฯ ทำให้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะทีมชาติเม็กซิโกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เปรียบเสมือนทีมจากอเมริกาใต้ทีมหนึ่งเลยทีเดียว
แต่รอบแบ่งกลุ่มนี้ ถ้าพูดกันตามเนื้อผ้า ทีมชาติเม็กซิโกก็ไม่น่าจะเบียดทีมชาติบราซิลเป็นแชมป์กลุ่มได้แน่ และเมื่อดูจากรอบต่อไป ที่ต้องไปเจอกับทีมจากกลุ่ม B ซึ่งมีแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 อย่าง ทีมชาติ "สเปน" และรองแชมป์โลกปีเดียวกันอย่าง "ฮอลแลนด์" แย่งกันเป็นแชมป์กลุ่ม ก็ต้องขอสรุปว่า เส้นทางฝันของทีมชาติเม็กซิโกน่าจะจบลงที่รอบ 16 ทีมอีกเช่นเคย
ประเทศโครเอเชีย (Croatia) ใช้ภาษา "โครเอเชียน" (hrvatski - คาร์วัตสกี้) เป็นภาษาราชการ
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชียมีฉายาว่า Vatreni (วาเทรนี - เสื้อเบลเซอร์) แต่คนไทยเรา พอเห็นลายเสื้อทีมชาติของเขา ก็ตั้งฉายาให้ว่าทีม "ตราหมากรุก หรือหมากรุกพิฆาต"
ปัจจุบัน ทีมชาติโครเอเชียมีอันดับโลกอยู่ที่ 20 ของ FIFA Ranking
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย เคยเข้าร่วมฟุตบอลโลก 3 ครั้ง และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 4 ครั้ง
ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกคือได้ที่ 3 ในปี ค.ศ. 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเอาชนะเนเธอร์แลนด์ไปได้ 2-1 ในรอบชิงที่ 3
โครเอเชีย เป็นประเทศที่เกิดใหม่ช่วงที่เป็นรัฐอิสระระหว่างปี ค.ศ. 1940-ค.ศ. 1945 ได้ผนวกรวมตัวกับประเทศยูโกสลาเวีย แล้วแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระในปี ค.ศ. 1990 ทำให้ในยุคแรกนักฟุตบอลทีมชาติโครเอเชียจะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติยูโกสลาเวีย ทีมชาติโครเอเชียเข้าเป็นสมาชิกฟีฟ่าในปลายปี ค.ศ. 1992 และได้รับการจัดอันดับเป็นครั้งแรกโดยฟีฟ่าให้เป็นที่ 125 ของโลก เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994
ลักษณะเด่นของทีมชาติโครเอเชีย คือ ชุดที่สวมใส่ที่มีลายตารางหมากรุกสีขาวสลับแดง โดยสวมกางเกงขาว ถุงเท้าสีน้ำเงิน ขณะที่ชุดทีมเยือนจะเป็นสีน้ำเงินเข้มทั้งชุด มีแถบสามเหลี่ยมตาหมากรุกสีแดงจากคอและไหล่ซ้ายลงมาถึงแนวต่อของแขนเสื้อ ซึ่งทำให้ได้รับฉายาว่า "Vatreni" แปลว่า "เสื้อเบลเซอร์"
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติโครเอเชีย*
ทีมฟุตบอลโครเอเชียชุดปัจจุบัน อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีมากมายที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศสเปน , เยอรมัน และอิตาลี แต่ปัญหาคือความสามัคคี เพราะนักเตะโครแอตขึ้นชื่อเรื่องพฤติกรรมชอบทำตัวเป็นดาราเอาแต่ใจมาโดยตลอด ปัญหาของทีมจึงขึ้นอยู่กับตัวกุนซือว่าจะเอานักเตะของตัวเองอยู่หรือไม่ เพื่อให้ทุกคนตั้งใจเล่นกันเพื่อทีมให้ได้ และสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศเจ้าภาพบราซิล ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของนักเตะที่มาจากทวีปยุโรปเช่นพวกเขา
ยิ่งนัดแรกในรายการฟุตบอลโลก 2014 ในกลุ่ม A ของพวกเขา ต้องพบกับทีมชาติบราซิลที่กระหายชัยชนะนัดแรก เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยอีกต่างหาก การที่ทีมชาติโครเอเชียชุดนี้จะฝ่าด่านเข้าสู่รอบ Knockout จึงจำเป็นต้องอาศัยความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะเรื่องฝีเท้าของพวกเขามีดีพออยู่แล้ว
ประเทศแคมอรูน (Cameroon) ใช้ภาษา "ฝรั่งเศส" (Le français - เลอ ฟรองแซ) เป็นภาษาราชการ
ฟุตบอลทีมชาติแคมอรูนมีฉายาว่า Les Lions Indomptables (เล ลียง แซงดงตาเบลอ - สิงโตทรหด) แต่คนไทยเราตั้งฉายาให้เขาซะน่ากลัวว่าทีม "หมอผี"
ปัจจุบัน ทีมชาติแคมอรูนมีอันดับโลกอยู่ที่ 50 ของ FIFA Ranking
ฟุตบอลทีมชาติแคมอรูนเป็นทีมจากทวีปแอฟริกาที่ประสบความสำเร็จที่สุด โดยทีมชาติแคเมอรูนเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 6 ครั้ง คือในปี 1982, 1990, 1994, 1998, 2002 และ 2010 มากกว่าชาติใดในทวีปแอฟริกา
นอกจากนั้นยังเป็นทีมที่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก โดยในปี 1990 ทีมชาติแคเมอรูนพ่ายให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษในช่วงต่อเวลาพิเศษ พวกเขาชนะการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 4 ครั้ง และยังได้เหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2000
ทีมชาติแคมอรูนคับคั่งไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีที่ไปค้าแข้งยังต่างแดนมากมาย โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ส่วนใหญ่ก็ที่ประเทศฝรั่งเศสนั่นแหละ เพราะพูดฝรั่งเศสได้ แต่หลายคนก็เล่นให้กับทีมใหญ่ด้วย เช่น ซามูเอล เอโต อยู่กับเชลซีในอังกฤษ , อเล็กซ์ ซง อยู่กับบาร์เซโลน่าในสเปน
*เส้นทางฟุตบอลโลกของทีมชาติแคมอรูน*
ทีมชาติแคมอรูนอยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับทีมชาติบราซิล , โครเอเชีย และเม็กซิโก ซึ่งความจริงแล้วทีมฟุตบอลจากทวีปแอฟริกา เป็นทีมที่แข็งแกร่ง เพราะร่างกายของชาวแอฟริกันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ มีพละกำลังมาก รูปร่างใหญ่โต วิ่งได้รวดเร็ว จึงได้เปรียบในการเบียดปะทะกับคู่แข่ง
ฉะนั้นการจะทำให้ทีมอย่างแคมอรูนประสบความสำเร็จ จึงไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเตะ เพราะนักเตะหลายคนมีความสามารถสูงอยู่แล้ว หากแต่อยู่ที่ตัวโค้ชทีมชาตินั่นแหละ ว่าจะมีบารมีพอที่จะทำให้นักเตะของตัวเองอยู่ในโอวาท เล่นได้ตามแผนที่วางไว้ได้หรือไม่
Participe do grupo do Facebook "Clube de línguas ocidentais da Universidade deRamkhamhaeng" ao https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
8 พฤษภาคม 2014
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
8 พฤษภาคม 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น