วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าผีรัสเซีย - เด็กหลงทาง



Русский призрак
 (ผีรัสเซีย)
 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ lost child
  
ที่มา : Nanmeebooks
ตอน : เด็กหลงทาง
     Валерий (วาเลรีย์) ย้ายมาทำงานในเมือง Биробиджан (บีโรบีดจัน) เป็นวันแรก หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เขาขับรถด้วยความอ่อนเพลียไปยังที่พัก ด้วยความไม่ชำนาญในสถานที่ จึงจำเป็นต้องพึ่งเครื่องนำทาง แต่เครื่องเกิดเสียขึ้นมากะทันหัน 

     แย่จริง ทำไมมืดแบบนี้ ไฟข้างทางไม่มีสักดวงเลยหรือไง เขาถอนหายใจแต่ก็ยังขับรถแล่นสู่ทางบนเขา

     วาเลรีย์พยายามขับรถไปตามป้ายบอกทาง ข้างทางห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้และความมืด มีเพียงไฟหน้ารถของเขาที่เป็นแสงสว่างเดียวที่พอพึ่งพิงได้ กระทั่งพบป้ายบอกทางเก่าๆ ที่บอกให้รู้ว่าทางข้างหน้ามีหมู่บ้านอยู่

     คงต้องขอนอนค้างที่หมู่บ้านนี้ซะแล้ว 

     วาเลรีย์ขับช้าๆ เพราะกลัวจะมีสัตว์ป่าวิ่งตัดหน้ารถ ไฟหน้ารถฉายให้เห็นเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล 

     เอ๊ะ ทำไมมีเด็กมาอยู่ในที่แบบนี้คนเดียว วาเลรีย์จอดรถแล้วเดินไปหาเด็กชายคนนั้น

     เจ้าหนู มาทำอะไรแถวนี้ หลงทางหรือเปล่า

     เด็กชายจ้องตาวาเลรีย์ แล้วพูดด้วยสีหน้าเศร้า ผมมาเล่นกับเพื่อนแล้วขึ้นรถประจำทางกลับไม่ทันครับ พี่ช่วยพาผมไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหมครับ วาเลรีย์ตอบรับด้วยความยินดี เขาพาเด็กคนนั้นมานั่งที่เบาะข้างๆ และสตาร์ทรถ

     แล้วบ้านเธออยู่ไหนล่ะ

     ขับตรงไปทางนั้นครับ

     ด้านหน้าไม่ไกลมีทางแยก เด็กชายชี้ให้เขาขับไปทางภูเขาที่มืดสนิทกว่าเดิม เหมือนเป็นทางเข้าหุบเขาลึกที่ไม่น่าจะมีหมู่บ้านตั้งอยู่ วาเลรีย์คิดว่าแถวนี้อาจจะเป็นพื้นที่กันดาร เขาขับรถไปตามทางที่เด็กชายบอก รถแล่นผ่านป้ายบอกทางเก่าๆ ริมทาง แต่ก็มืดจนมองไม่เห็นว่าเป็นป้ายอะไร

     เมื่อขับไปได้สักพัก รถก็สั่นโคลงเคลง วาเลรีย์เข้าใจว่าน่าจะสิ้นสุดถนนลาดยางแล้ว 

     โอ้โฮ ทางขรุขระน่าดูแฮะ จับเอาไว้ให้แน่นล่ะ

     เด็กชายยิ้มรับคำพูดของวาเลรีย์พลางหัวเราะในลำคอ เขาไม่มีท่าทีว่าจะกลัวผิดกับที่วาเลรีย์เป็นห่วง

     เธอคงคุ้นเคยกับถนนเส้นนี้ดีสินะ นั่งนิ่งเชียว

     พี่ชายรู้จักถนนแห่งความตายไหมครับ เด็กชายที่นั่งเงียบมาตลอดพูดออกมา 

     ถนนแห่งความตายเหรอ มันคืออะไรน่ะ ฟังดูน่ากลัวจัง

     ก็ถนนที่ใครหลงเข้ามาแล้วจะออกไปไม่ได้อีกตลอดกาล เด็กชายที่นั่งเงียบมาตลอดพูดออกมา ต้องขับรถวนไปวนมาจนกว่าจะตายเพราะไม่มีทางออกยังไงล่ะครับ เด็กชายพูดพลางหัวเราะเบาๆ 

     วาเรลีย์เริ่มรู้สึกประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าเป็นแค่ความคิดของเด็กไร้เดียงสาเท่านั้น รถยังคงแล่นต่อไปบนถนนลูกรังที่ขรุขระและมืดมิด

      แปลกแฮะ เมื่อกี้เราขับผ่านทางนี้ครั้งหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ เหมือนจะเคยเห็นป้ายนั้นเลย วาเลรีย์แปลกใจเมื่อเหลือบไปเห็นป้ายข้างทางที่ดูคุ้นตา แต่เขายังคงขับรถต่อไปบนถนนลูกรังสายเดิมนั้น

     เจ้าหนู ใช่ทางนี้แน่เหรอ ดูเหมือนเราจะมาผิดทางแล้วล่ะ

     ทางนี้แหละครับมาถูกทางแล้ว เด็กชายจ้องมองวาเลรีย์ที่เริ่มมีอาการพะวักพะวน แล้วก็หัวเราะคิกคักอีกครั้ง

     แต่ฉันรู้สึกเหมือนขับรถวนอยู่ที่เดิม ยังไงคงต้องขับกลับไปที่ถนนใหญ่ก่อน 

     เชื่อผมสิครับ เรามาถูกทางแล้ว เด็กชายหัวเราะคิกคักต่อไปเรื่อยๆ ราวกับกำลังเล่นสนุก

     แต่เราขับรถมาตั้งนานก็ไม่เจอหมู่บ้านสักทีนี่ ยังไงคงต้องเลี้ยวกลับก่อนล่ะ วาเลรีย์เริ่มหัวเสีย

     พี่ชายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ เด็กชายพลันเสียงแข็ง เสียงหัวเราะและรอยยิ้มหายไป

     เธอหมายความว่าอย่างไร

     วาเลรีย์หงุดหงิดขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงแข็งๆ ของเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ จึงเผลอตวาดใส่ สีหน้าของเด็กชายถมึงทึงขึ้นมาทันที วาเลรีย์เห็นแบบนั้นก็รู้สึกผิด เขาจึงคิดจะพูดขอโทษ แต่เด็กชายก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีเหมือนเดิม 

     ที่นี่ไม่มีทางออกหรอกครับ พี่ชายจะต้องขับรถวนไปวนมาอยู่นี่นี่จนตาย คิกๆ นัยน์ตาดำของเด็กชายหายไป เหลืองเพียงดวงตาขาวโพลง เขาแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว

เข้าร่วมกลุ่มเฟสภาษาตะวันตกได้ที่
  https://www.facebook.com/groups/365756166805480/
 จอมณรงธร ศรีอริยนันท์ 
31 สิงหาคม 2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น