วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มีมี่ นักสเกตน้ำแข็งมือ 1 ไทย พูดได้ 6 ภาษา

 ข้อมูลจาก เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์

“มีมี่” สาวน้อยมหัศจรรย์ สเกตระดับโลกพูดได้ 6 ภาษา



คน ที่พูดได้สองภาษา เปรียบเหมือนมีคนสองคนในร่างเดียว คนคนนั้นย่อมได้เปรียบกว่าคนที่สื่อสารได้แค่ภาษาเดียว ดังนั้น คนที่พูดได้มากภาษาเท่าไร จึงมีโอกาสในชีวิตมากกว่าขึ้นเท่านั้น ยิ่งโลกทุกวันนี้แคบลงทุกวัน การติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศจึงมีความสำคัญยิ่ง
 

การพูดได้สองภาษา จึงนับว่าน่าสนใจ แต่หากใครเกิดพูดและสื่อสารได้ถึง 6 ภาษา แบบนี้ถือว่าน่าทึ่ง เพราะมีจำนวนน้อยยิ่งกว่าน้อย ส่วนมากแล้ว คนที่พูดได้หลายภาษานั้น มักเป็นนักการทูต นักภาษา แต่เรื่องที่น่าทึ่งที่ต้องนำเรื่องของเขามาเสนอ เป็นเด็กผู้หญิงอายุแค่ 13 ปี แต่สามารถสื่อสารได้ถึง 6 ภาษา คือ ไทย, อังกฤษ, สเปน, จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลี เธอคือ “น้องมีมี่” ด.ญ.ธนสร จินดาสุข ที่กำลังเรียนชั้น จี 8 โรงเรียนนานาชาติ “บางกอกพัฒนา” ลูกสาวคนเดียว หัวแก้วหัวแหวนของนักธุรกิจชั้นนำเมืองไทย เจ้าของกิจการ “ก๊อกน้ำซันวา” บุตรีของ นายพงษ์ชัย-เกศริน จินดาสุข  


โลกใบนี้ว่ากันว่า หาคนที่สมบูรณ์แบบพรั่งพร้อมได้ยากยิ่ง ประเภท หัวใจมีดนตรี เรียนดี กีฬาเลิศ เกิดในตระกูลร่ำรวย สะสวยหน้าตา กิริยางดงาม ต้องใช้เวลาหากันนานหน่อย
 แต่เชื่อหรือไม่ คุณสมบัติที่บอกมา มีอยู่ในตัวของน้อง “มีมี่” เพราะเธอเรียนดีมาก ใบหน้ากระดาษ


รายงานผลการเรียนของหนูน้อยคนนี้ ส่วนมากจะเป็นรูปหอไอเฟล นั่นคือ ตัว A นอกจากเรียนดีแล้ว สิ่งที่คนเก่งมักขาดคือ กีฬาเด่น กลับมาพบในตัวของน้องมีมี่อีก เพราะเธอคือ นักสเกตน้ำแข็งมือ 1 ของเมืองไทย และเป็นนักสเกตคนเดียวคนแรกของไทยที่ไปแข่งขันระดับโลกในขณะนี้ 


“ตอน มีมี่ อายุ 4 ขวบ คุณแม่พาไปดูดิสนีย์ออนไอซ์ หนูชอบมาก เลยบอกกับแม่ว่า คุณแม่ขา หนูอยากเล่นสเกตน้ำแข็ง คุณพ่อกับคุณแม่เลยพาไปเล่นที่ลานสเกตที่เวิลด์เทรด จึงเล่นเรื่อยมา เล่นไปสักพักก็เกิดชอบ และเริ่มแข่งขัน ตอน 6 ขวบ ไปแข่งขันที่ฮ่องกง มีมี่ได้ที่ 3 ประเภทฟรีสไตล์มาครอง จากนั้นมีมี่ก็เล่นสเกตเรื่อยมา แต่มาเล่นแบบจริงจังเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา" 

น้องมีมี่ เล่าที่มาที่ไป เมื่อ ลูกมีแววว่าเก่งกาจบนลานน้ำแข็ง เพราะลีลาการสเกตงดงาม พลิ้วไหวอ่อนช้อย ท่วงท่าลีลากลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับเสียงดนตรี คุณแม่จึงสนับสนุนเต็มที่ แต่มีอุปสรรคเพราะลานสเกตที่เวิลด์เทรดปิดตัวลง คราวนี้คุณแม่เลยตัดสินใจ ลงทุนเปิดลานสเกตแห่งใหม่ที่อิมพีเรียล สำโรง เสียเลย

"สาเหตุ ที่ต้องมาสร้างลานสเกต เพราะมีเด็กๆ ที่เล่นสเกตมาก พอลานสเกตปิด พวกเขาก็ร้องไห้กัน เพราะไม่รู้จะไปเล่นที่ไหน ลูกเราก็เล่นด้วย เลยตัดสินใจ สร้างลานสเกตใหม่เสียเลย ตอนนั้นคิดว่า จะสร้างทั้งทีก็สร้างให้มันดี ได้มาตรฐาน ก็ลงทุนไป 30 ล้านบาท เพื่อให้เด็กไทยได้เล่นกัน" 

ยอดคุณแม่เกษริน เล่าที่มาที่ไปของการสร้างลานสเกต และสร้างอนาคตให้ลูก การได้ลานสเกต ที่ได้มาตรฐาน เหมือนติดปีกให้พยัคฆ์ จากนั้นยอดคุณแม่เกษริน ที่เป็นอุปนายกของสมาคมกีฬาฟิกเกอร์ และสปีดสเกตติ้งแห่งประเทศไทย ก็รุกฆาต ลงทุนจ้างโค้ชชาวจีนฝีมือดี ดีกรีแชมป์โลกมาสอนให้เด็กๆ ทุกวันซึ่งน้องมีมี่ดูจะตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพราะเธอตั้งความหวังไว้ว่า จะต้องสร้างชื่อให้ตัวเองจากการเล่นสเกตให้ได้

“พอ เลิกเรียน มีมี่จะมาซ้อมต่อทันทีชั่วโมงครึ่ง จากนั้นก็จะทำการบ้าน พอทำเสร็จแล้วก็ทบทวนการเรียน แล้วซ้อมต่ออีกชั่วโมงครึ่ง รวมเวลาจันทร์ถึงศุกร์ จะซ้อมวันละ 3 ชั่วโมง ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์จะซ้อมหนักหน่อยวันละ 5 ชั่วโมงเต็ม ตรงจุดไหนไม่ดีก็จะแก้ไข ทำให้ดียิ่งขึ้น"
 

ว่ากันว่า ความไม่พอใจ คืออีกแรงผลักที่จะทำให้อะไรดีขึ้น น้องมีมี่ เมื่อเข้าสู่วงการสเกตแล้ว เธอฝันจะไปให้สุดทาง ช่วงปิดเทอมเธอบินไกลไปถึงสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียนศาสตร์สเกตต่อ แรกๆ ไป ทางครูผู้สอนชาวมะกันที่ปั้นแชมป์โลกมานักต่อนักเห็นเข้าก็ไม่อยากสอนให้ เพราะคิดว่า คนเอเชียมาจากเมืองร้อนเล่นสเกตไม่เป็นแน่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 3 วัน ครูคนนี้ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที เพราะเมื่อเห็นลีลาน้องมีมี่ซ้อมคนเดียวลีลาไม่ธรรมดา จึงปรี่มาหาแล้วสอนให้
 

ความไม่ธรรมดาของมีมี่ คือ แม้อายุแค่ 13 ปี แต่เชื่อหรือไม่ ตอนเธอสเกตนั้น เธอสามารถหมุนตัวกลางอากาศได้ถึง 3 รอบ ซึ่งการหมุนจำนวนรอบแบบนี้ ได้สงวนสิทธิ์ไว้เฉพาะนักสเกตระดับโลกเท่านั้น...ที่ทำได้


เมื่อ เธอเก่งกาจ ก็ได้เวลาเดินสายแข่งขัน ผลการชิงชัยเป็นไปตามคาด น้องมีมี่ ในรุ่น 13 ปี ไปแข่งขันได้แชมป์เอเชียที่ฮ่องกง จากนั้นได้สิทธิไปแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ทั่วโลก ในรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งน้องมีมี่อายุน้อยกว่าคนอื่นตั้ง 5 ปี แต่ผลงานยอดเยี่ยม เกาะกลุ่มอยู่กลางตารางประจำปีนี้ เธอมีคิวแข่งขันหลายที่ ซึ่งครอบครัวสนับสนุนเต็มที่ ทั้งกำลังใจและกำลังเงิน เพื่อให้ฝันของลูกเป็นจริง
 

ผลงานที่ต้องบันทึกไว้ น้องมีมี่ซิวแชมป์ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ 25 เหรียญทอง และรองแชมป์ 33 รายการ โดยรางวัลที่เธอและพ่อแม่ภูมิใจคือได้แชมป์ เออิชิ เพอร์เฟคเจอร์ แชมเปี้ยนชิพส์ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งรายการนี้ น้องมีมี่เป็นชาวต่างชาติคนเดียวที่ได้รับเชิญไปชิงชัย
 

 ฝันของคนในครอบ ครัว “จินดาสุข” คือ น้องมีมี่ไปถึงแชมป์โลก และเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ไปแข่งขันสเกตน้ำแข็ง ในโอลิมปิกฤดูหนาวหนหน้า ที่แวนคูเวอร์ แคนาดา ในปี 2010 ให้ได้
 

นอกจากน้องมีมี่ สาวน้อยมหัศจรรย์สเกตแล้ว สาวน้อยคนนี้ยังมีคุณสมบัติที่ใครคาดไม่ถึงอีก คือ แม้จะเรียนโรงเรียนนานาชาติ สามารถเล่นเปียโนได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งแล้ว เธอยังไม่ลืมความเป็นไทย สามารถตีขิมได้อีก ซึ่งเพลงที่เธอชื่นชอบคือ ลาวจ้อย, ค้างคาวกินกล้วย, คลื่นกระทบฝั่ง ฯลฯ 


 ใน วัย 13 ปี เด็กไทยส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมจากเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับ มีมี่ เธอใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาฝีมือ และความคิดเพื่อชีวิตในอนาคต คือ คอมพิวเตอร์ดีไซน์กราฟฟิก เธอสามารถทำภาพการ์ตูน แอนิเมชั่น ได้สบายๆ ซึ่งผู้ใหญ่ที่ขลุกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละหลายนานยังทำไม่ได้ ทำไม่เป็น

 สำหรับปีนี้ น้องมีมี่คนเก่งมีคิวแข่งขันอีกเพียบ ยูธโอลิมปิก ที่ออสเตรเลีย, ชิงแชมป์เอเชียที่ฮ่องกง, เยาวชนชิงแชมป์โลกที่เช็ก, รายการ จูนิจิ ที่ญี่ปุ่น, ที่เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ ให้รอชื่นชมความสำเร็จของเธอ สาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ให้ดี เธอจะไม่ทำให้ผิดหวัง


จอมณรงธร (ตี๋)
ประธานชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2555-56
กลุ่ม "รวมบาป"
23 สิงหาคม 2012


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น