วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Río de janeiro : City of God (บราซิล)

ข้อมูลโดย thaiza.com

ชื่อของนคร Río de janeiro (คริอู ดี ชาเนย์รู - ภาษาโปรตุเกส) ประเทศบราซิล โด่งดังขึ้นมาหลังจากได้รับเลือก จากคณะกรรมการโอลิมปิกสากลให้เป็น เจ้าภาพจัดมหกรรมโอลิมปิก 2016 โดยเอาชนะคู่แข่งอย่าง กรุงมาดริด ประเทศสเปน ขาดลอย เนื่องจากเป็นเมืองที่ยังไม่เคยจัดงานมาก่อน ทั้งยังเป็นเมืองของทวีปอเมริกาใต้เมืองแรกที่ได้จัดโอลิมปิกอีกด้วย



     ก่อนจะถึงเวลานั้น เรามาทำความรู้จักกับเจ้าภาพหมาดๆ เมืองนี้ดูว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง นคร
คริอู ดี ชาเนย์รู ถูกเอ่ยถึงอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อ 500 กว่าปีก่อน ในเดือนมกราคม ปี 2045 นักสำรวจชาวโปรตุเกสที่ชื่อ กาสปาร์ เลมอส ล่องเรือมาถึงอ่าวแห่งนี้และสันนิษฐานว่ามันน่าจะเป็นปากแม่น้ำ เขาจึงเรียกอาณาบริเวณนั้นว่า คริอู ดี ชาเนย์รู ซึ่งมีความหมายว่า “แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม”

    
ริอู ดี ชาเนย์รู หรือที่เรียกกันว่า ริโอ เป็นเมืองหลวงของบราซิลในอดีตจนกระทั่งรัฐบาลกลางได้ย้ายเมืองหลวงมาที่เมืองบราซิเลียในปี 2503

     ใน เว็บไซต์ www.rio2016.org ที่เปิดขึ้นมาประชาสัมพันธ์เมืองในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกระบุความ พร้อมไว้ว่า บราซิลมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก และคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ภายในปี 2559 เมื่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก นอกจากนี้บราซิลยังเป็นประเทศส่งออกอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและเป็นผู้ผลิตน้ำมันและแร่รายใหญ่รายหนึ่งของโลกด้วย

      บราซิลเสนองบประมาณในการจัดโอลิมปิกครั้งนี้ถึง 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหวังว่าการเป็นเจ้าภาพจะช่วยยกสถานภาพและเพิ่มอำนาจทางเศรษฐกิจของประเทศ บนเวทีโลก และทำให้ริโอกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวและสถานที่จัดประชุมนานาชาติเช่นเดียว กับที่เคยเกิดขึ้นกับ บาร์เซโลนา ของสเปน เมื่อครั้งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี ค.ศ.1992

      ริโอซึ่งเป็นประตูสู่บราซิลได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งใน โลกจนได้รับขนานนามว่า “เมืองที่ยอดเยี่ยม” โดยเฉพาะชายหาดชื่อดังอย่าง โคปาคาบานา และ อีปาเนมา ซึ่งว่ากันว่าเป็นชายหาดที่เซ็กซี่มากที่สุดในโลก ส่วนชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมก็ไม่น้อยหน้าใคร อย่าง "คาร์นิวัล" เทศกาลรื่นเริงประจำปีของบราซิลก็มีนักท่องเที่ยวไปร่วมงาน 5 แสนคนต่อปี ริโอยังเป็นเมืองที่ให้กำเนิดแนวเพลงบอสซาโนว่าด้วย 





      แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและโด่งดังมากก็คือ รูปปั้นของพระเยซูชื่อ Christ of Redeemer ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อ 2 ปีก่อน

       รูปปั้นที่สูงประมาณ 700 เมตรนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาคอร์โควาโด เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองและชายหาดที่สวยที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถรางไปบนยอดเขาเพื่อมองรูปปั้นอันเป็นที่เคารพ สักการะของชาวบราซิลและคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลกอย่างใกล้ชิด ชาวบราซิลมักจะกล่าวอ้างว่าพระเจ้าเป็นชาวบราซิล ซึ่งอาจเป็นเพราะรูปปั้นพระเยซูที่ยืนเพ่งมองมายังเมืองราวกับว่าริโออยู่ใน ความคุ้มครองของพระองค์

      ภูเขาชูการ์ โลฟ ซึ่งเป็นภูเขาหินแกรนิตที่ตั้งตรงขึ้นมาจากผิวน้ำ สูงประมาณ 400 เมตร ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของริโอ และเป็นจุดชมวิวของอ่าวกัวนาบาร่า 




      สนามกีฬามารากาน่าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือนวิหารของฟุตบอลบราซิลก็ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 3 ของเมือง และเป็นสถานที่ที่ชาวเมืองภาคภูมิใจมาก มีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของฟุตบอลบราซิลเกิดขึ้นที่นี่มากมาย เช่น การยิงประตูที่ 1,000 ของเปเล่ ตำนานลูกหนังแซมบ้าเมื่อ 40 ปีก่อน และยังเป็นสนามที่เขาลงเล่นให้ทีมชาติเป็นนัดแรกด้วย ในอนาคตสนามนี้จะถูกใช้เป็นที่จัดพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพรวมถึงใช้จัดพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิก 2016 ด้วย 


 ถ้ามีโอกาสได้ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ก็ไม่ควรพลาดโอกาสไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ แต่คงต้องระมัดระวังตัวด้วย แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองอันงดงาม แต่ริโอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมสูงมากแห่งหนึ่งในละตินอเมริกา จนมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาสะท้อนให้เห็นความรุนแรง ในชื่อ City of God หรือ เมืองแห่งพระเจ้า นั่นเอง 


จอมณรงธร (ตี๋)
ประธานชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2555-56
กลุ่ม "รวมบาป"
 8 กุมภาพันธ์ 2013
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น