วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คนละอารมณ์

 ข้อมูลโดย siamsport.co.th

David Luiz (ดาวิด ลุยซ์) กองหลังค่าตัวแพง เปิดใจสุดผิดหวังที่ทำให้แฟนบอลชาว Brasileiros (บราซิเลย์รูส - ชาวบราซิล) ต้องเศร้าใจ หลังไม่สามารถนำทีมชาติบราซิล เข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลก 2014 เนื่องจากโดนทีมชาติเยอรมัน ไล่ถลุงยับเยิน 1-7 ในรอบตัดเชือกเมื่อวันอังคารที่ 8 กรกฎาคมผ่านมา 
 

เกมนี้ทีมชาติบราซิล ตั้งเป้าเอาไว้สูงหวังจะหักด่าน "อินทรีเหล็ก" เพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่กลายเป็นว่าโดนทีมชาติเยอรมัน ยิงประตูขึ้นนำ 7 ลูกรวด ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งสวมปลอกแขนกัปตันทีมแทน Thiago Silva (เตียกู ซิลวา) ที่ไม่ได้ลงเล่นเกมนี้ เนื่องจากติดโทษแบน กล่าวว่า 
 

"ผมก็แค่อยากที่จะทำให้เพื่อนร่วมชาติมีความสุข โชคร้ายเหลือเกินที่เราไม่สามารถทำได้ ผมเสียใจกับชาวบราซิลทุกคน ผมก็แค่อยากที่จะเห็นพวกเขามีรอยยิ้ม ทุกๆ คนรู้ว่ามันมีความสำคัญมากแค่ไหน แต่พวกเขา (ทีมชาติเยอรมัน) ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาเตรียมตัวมาดีกว่า พวกเขาเล่นได้ดีกว่า เราปล่อยให้เสียประตู 4 ลูกภายในเวลาเพียง 6 นาที มันเป็นวันที่น่าเศร้ามาก ๆ และเราจะต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้" 

 

ส่วน Luiz Felipe Scolari (หลุยซ์ เฟลิปี สโกลารี) กุนซือทีมชาติบราซิล ออกมารับผิดชอบสำหรับความพ่ายแพ้ต่อเยอรมัน อย่างสิ้นท่าในศึกฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันอังคาร บอกแข้ง "Seleção (เซเลเซา) พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่อาจต้านฟอร์มอันสุดยอดของ "อินทรีเหล็ก" ได้ และอยากกล่าวขอโทษต่อทุกคนในชาติที่ต้องผิดหวังอย่างใหญ่หลวง"

ไม่มีใครคาดคิดว่าทีมเจ้าภาพจะแพ้อย่างหมดสภาพ ถึงขนาดเป็นการปราชัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 94 ปีของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สโกลารี ก็ไม่คิดที่จะโทษลูกทีมคนใดสำหรับผลการแข่งขันที่ออกมาและอยากกล่าวขอโทษต่อ ชาวบราซิลทุกคน


"ใครรับผิดชอบต่อผลการแข่งขัน? ผมเอง มันเป็นผม เสียงด่าทอสำหรับผลการแข่งขันอันเลวร้ายนี้สามารถลงมาที่เราทุกคนได้ แต่บุคคลที่ตัดสินใจเลือกตัวนักเตะและแท็กติกการเล่นคือผม มันเป็นการตัดสินใจของผม"

 "เราพยายามทำสิ่งที่เราทำได้ เราทำอย่างดีที่สุด แต่เราก็เจอกับทีม เยอรมัน ที่ยอดเยี่ยม เราไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาตอบสนองออกมาได้เมื่อเป็นฝ่ายตามหลัง แม้กระทั่ง เยอรมัน ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันเป็นเพราะทักษะของพวกเขาที่คุณต้องให้ความเคารพ"

 "ข้อความ ของผมที่อยากส่งไปยังชาวบราซิลคือ กรุณาให้อภัยต่อเราสำหรับฟอร์มการเล่นนี้ ผมเสียใจที่เราไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงได้สำเร็จ และเราก็จะพยายามคว้าอันดับ 3 มาครองให้ได้ เรายังเหลือเกมที่มีความหมายอยู่" สโกลารีกล่าว
 
 

ส่วน Thomas Müller (โธมัส มุลเลอร์) หัวหอกทีมชาติเยอรมัน ชี้ชัยชนะเหนือทีมชาติบราซิล ในศึกฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันอังคารเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เนื่องจากไม่คิดมาก่อนว่าจะถล่มเจ้าภาพเละเทะขนาดนั้น พร้อมเตือนเพื่อนอย่าเพิ่งเหลิงไปกับผลงานในเกมนี้ เนื่องจากแต่ละแมตช์มีความแตกต่างกัน

 "แน่นอน คุณไม่สามารถคาดหวังเรื่องนั้นได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าแต่ละเกมแตกต่างกันแค่ไหน บราซิล เล่นแตกต่างไปจากพวกทีมที่เน้นตั้งรับ และเราก็ฉวยความได้เปรียบนี้เอาไว้ มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก" 
 

 อย่างไรก็ตาม ทีมชาติเยอรมัน ยังมีงานหนักรออยู่ในเกมรอบชิงชนะเลิศที่จะเจอกับทีมชาติอาร์เจนตินาที่สนาม Maracanã (มารากานัง) วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ และมุลเลอร์ก็ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมรักษาฟอร์มนี้เอาไว้

"คุณควรที่จะรักษาฟอร์มนี้เอาไว้ ทุกแมตช์มีความแตกต่าง เหมือนอย่างที่ทุกคนพูดถึง เราเคยเล่นแย่ หลังแมตช์กับ ทีมชาติแอลจีเรีย พวกเขาจะยกย่องคุณในตอนนี้ เราคือทีมที่มีคุณภาพกับทีมที่ยอดเยี่ยม"  

 

ขณะที่ Miroslav Klose (มิโรสลาฟ โคลเซ) ที่เพิ่งทำสถิติยิงประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่จำนวน 16 ประตู แซงหน้า Ronaldo (โรนัลดู) ตำนานนักเตะชาวบราซิล กล่าวว่า "เราเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม คุณเห็นได้ในการฝึกซ้อมว่าเราเล่นกันเป็นทีม เรามีความเหนียวแน่น มันสำคัญในเรื่องการเล่นลูกตั้งเตะ คุณเห็นในวันนี้อีกครั้งตอนที่เราได้ประตูแรก จากลูกเตะมุม นั่นคือจุดแข็งอย่างแท้จริง ผมไม่ได้ตื่นเต้น เพราะมีคนเตะเข้าที่เท้าผมตอนผมยิง"

 เลิฟเผยเข้าใจความเจ็บปวดคนบราซิล

ทางด้าน Joachim  Löw (โยอัคคิม เลิฟ) นายใหญ่ทีมชาติเยอรมัน เผยตนเข้าใจดีถึงความเจ็บปวดของคนบราซิล หลังจากที่ทัพ "เซเลเซา" ถูก "อินทรีเหล็ก" เขี่ยร่วงรอบตัดเชือกศึกฟุตบอลโลก 2014 แบบหมดสภาพ ระบุ "อินทรีเหล็ก" ก็เคยช็อกแบบนี้มาแล้วตอนบอลโลก 2006

ความปราชัยสุดย่อยยับของทีมชาติบราซิลครั้งนี้ ทำเอาคนทั้งประเทศเสียใจ และช็อกกันแบบสุด ๆ กระนั้น เลิฟ ก็เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี เพราะทีมชาติเยอรมัน ก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วตอนเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2006 และพ่าย อิตาลี 0-2 ใน 120 นาทีของเกมรอบรองชนะเลิศ 

 

"เราเองก็เคยช็อกและเคยพบเจอประสบการณ์แบบนี้เหมือนกันในปี 2006 ตอนที่เราแพ้ อิตาลี ช่วงต่อเวลาพิเศษ เราหวังไว้สูงมากเหมือนกันในปี 2006 ซึ่งแมตช์แบบนี้ทีมเจ้าภาพมักจะกดดันเป็นพิเศษอยู่แล้ว คน 200 ล้านคนอยากเห็นคุณผ่านเข้ารอบชิงฯ มันก็เลยส่งผลให้นักเตะของคุณกดดัน ผมขอแสดงความเสียใจกับเขา (หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือบราซิล) ด้วย ผมรู้ว่า ตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร" บุนเดสเทรนเนอร์วัย 54 กะรัต กล่าว 

Participe do grupo do Facebook "Clube de línguas ocidentais da Universidade deRamkhamhaeng" ao https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/ 

 จอมณรงธร (ตี๋)
สมาชิกชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2557-58
กลุ่ม "Fanclub FS"
11 กรกฎาคม 2014





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น