ข้อมูลโดย ryt9.com
El Salvador

เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มประเทศอเมริกากลาง มีพื้นที่ประมาณ 21,041 ตารางกิโลเมตร เกือบเท่ากับขนาดพื้นที่ของประเทศอิสราเอล แต่ขนาดของเศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในกลุ่มประเทศในอเมริกากลาง และมีรายได้ต่อหัวในระดับประมาณสองส่วนสามของรายได้ต่อหัวของประเทศ คอสตาริกาและปานามา หรือสองเท่าของรายได้ต่อหัวของประเทศนิคารากัว
นอกจากความตกลงเขตการค้าเสรีกับสหรัฐฯ (CAFTA)
ซึ่งเอลซัลวาดอร์เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศอเมริกากลางประเทศแรกที่
ได้ให้สัตยาบันสำหรับความตกลงดังกล่าวเมื่อปี ค.ศ.2006 แล้ว
เอลซัลวาดอร์ยังมีความตกลงการค้าเสรีกับประเทศเม็กซิโก ชิลี
สาธารณรัฐโดมินิกัน และประเทศปานามา
อีกทั้งกำลังทำการเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับประเทศโคลัมเบีย
แคนาดา สหภาพยุโรป และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
ความตกลงเขตการค้าเสรีคาฟต้าได้ส่งเสริมให้เอลซัลวาดอร์เพิ่มการ
ส่งออกสินค้าด้านอาหารแปรรูป น้ำตาล เอธานอล ไปยังประเทศสหรัฐฯ
รวมทั้งได้มีการกระตุ้นการลงทุนในภาคการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศ
รัฐบาลของเอลซาวาดอร์มีนโยบายแผนงานส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยจะส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นศูนย์กลางการจำหน่าย สินค้าและโลจิสติกสำหรับภูมิภาคอเมริกากลาง โดยได้มีการเปิดเสรีรับการลงทุนจากภาคเอกชน และจากต่างประเทศ ในภาคการสื่อสาร การบริการสาธารณูปโภคการไฟฟ้า ธุรกิจการเงิน และภาคการกองทุนบำนาญ
การท่องเที่ยวของเอลซัลวาดอร์ได้เติบโตอย่างรวดเร็วในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในปี ค.ศ.2010 มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 4.6 ของรายได้ประชาชาติ และได้มีการขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.5 ในปีนั้น ได้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.97 เป็นจำนวน 1.27 ล้านคนจาก 1.15 ล้านคนในปีก่อน
ข้อมูลเศรษฐกิจพื้นฐาน
เอลซัลวาดอร์มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน แรงงาน 2.9 ล้านคน ร้อยละ 19
ทำงานในภาคเกษตร ร้อยละ 23 ในภาคอุตสาหกรรม และร้อยละ 53
ในภาคบริการงบประมาณรัฐบาลมีรายรับในปี ค.ศ. 2009 มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญฯ และรายจ่าย 4.8 พันล้านเหรียญฯ หนี้ของภาครัฐมีสัดส่วนร้อยละ 52.3 ของรายได้รวมประชาชาติ มูลค่าของหนี้รวม 10.62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เงินสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 2.9 พันล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์ได้ปรับใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสกุลประจำประเทศตั้ง แต่ปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมา
สินค้าส่งออกหลักของประเทศ ได้แก่ กาแฟ น้ำตาล สิ่งทอ สำหรับสินค้านำเข้าหลักได้แก่ เคมีภัณฑ์ อาหารแปรรูป เครื่องจักร และปิโตรเลียม
ท่าเรือที่สำคัญของเอลซัลวาดอร์ ได้แก่ ท่าเรือ Acajutla และท่า Puerto Cutuco ซึ่งเป็นท่าเรือฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยประเทศไม่มีทางออกในทางฝั่งมหาสมุทรแอ็ทแลนติก
การเมืองและประวัติศาสตร์
ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้รับเอกราชจากประเทศสเปนเมื่อปี ค.ศ. 1821
มีการเลือกสมาชิกรัฐสภาใหม่ทุกๆ 3 ปี เอลซัลวาดอร์ประสบกับปัญหาด้านความมั่งคงทางการเมืองเป็นระยะเวลานานมาก โดยได้มีสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อเป็นเวลา 12 ปี ระหว่างปี
ค.ศ. 1980-1992
เป็นการสู้รบระหว่างอำนาจฝ่ายขวาที่เป็นรัฐบาลมาแต่ดั้งเดิมซึ่งได้
รับเงินช่วยเหลือจากประเทศสหรัฐฯ กับตัวแทนกลุ่มฝ่ายซ้ายต่าง ๆ
ซึ่งต่อมาได้รวมตัวกันเป็นพรรค FMLN
สงครามกลางเมืองดังกล่าวได้ยุติลงโดยความตกลงยุติสงครามระหว่างสองฝ่าย
ที่มีการลงนามยุติสงครามในวิหาร Chapultapec ในกรุงเม็กซิโก
ประเทศเม็กซิโก
การค้าระหว่างเอลซาวาดอร์กับประเทศไทย
ในปี ค.ศ. 2009 ประเทศไทยกับเอลซาวาดอร์มีมูลค่าการค้ารวมจำนวน
19.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินค้าที่ประเทศไทยส่งออกไปยังเอลซัลวาดอร์ได้แก่
รถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ฯ (ซึ่งเป็นสินค้าหลัก มีการขยายตัวร้อยละ
283.98 มูลค่า 20.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และเป็นอัตราส่วนสินค้าหลักในอัตราร้อยละ 57.32
ของการส่งออกทั้งหมดของไทย) สินค้าอื่นๆ ได้แก่
สินค้าเหล็กและเหล็กกล้า อัตราการขยายตัวสูงมากจากมูลค่าเพียง 16,000
เหรียญ ในปี 2009 เป็นจำนวน 4.98 ล้านเหรียญฯ ในปี 2010)
สินค้าผลิตภัณฑ์ยางพารา สิ่งทอ รองเท้า ด้านและเส้นใย ผลิตภัณฑ์พลาสติก
เครื่องซักผ้า ผลิตภัณฑ์ด้านกีฬาและเกม
สำหรับสินค้าที่ประเทศไทยนำเข้าจากเอลซัลวาดอร์ได้แก่ อาหารทะเล
เครื่องจักรที่ใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า
กาแฟ ชา และเครื่องเทศ หม้อแปลงไฟ ไดโอด เซมิคอนดักเตอร์
แผลวงจนไฟฟ้า เสื้อผ้าและสิ่งทอ สำหรับเป้าหมายการส่งออกของไทยมายังประเทศเอลซาวาดอร์ นั้น
คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้จามเป้าหมายในภูมิภาคอเมริกากลางและใต้ใน
อัตราร้อยละ 20
จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
14 มีนาคม 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น