วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

อีกา ภาษาตะวันตก พูดว่าอย่างไร

ข้อมูลโดย Wikipedia และ unigang.com
 
นกกา หรือ อีกา พบกระจายพันธุ์ทั่วโลก ยกเว้นในทวีปอเมริกาใต้ มีลักษณะเฉพาะตัวคือมีสีขนสีดำสนิทเป็นเงามันเลื่อม อยู่รวมกันเป็นกลุ่มและออกหากินเวลากลางวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่แดดแรง กาจะหาอาหารโดยการซ่อนตัวในเงาของต้นไม้ สำหรับการจู่โจมเหยื่อ

ภาษาสเปน                                         Cuervo (ก้วยรฺโบะ)
ภาษาโปรตุเกส                                  Corvo (โก้รฺฝู)
ภาษาอิตาลี                                        Corvo (โก้รฺโหวะ)
ภาษาฝรั่งเศส                                    Corneille (กอรฺเนย)
ภาษาเยอรมัน                                    Krähe (เครเหยอะ)
ภาษารัสเซีย                                       Ворона (วาโร้หนะ)
ภาษากรีก                                           Κοράκι (กอร้ากิ)

กาจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ฉลาดที่สุดในอาณาจักรสัตว์  มันรู้จักการใช้เครื่องมือ , คาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า, และคิดแบบเหตุผลระดับง่ายๆ ได้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็สนใจทำวิจัยเกี่ยวกับนกชนิดนี้

ทีมนักวิจัยที่นำโดย John Marzluff แห่ง University of Washington สังเกตว่าทุกครั้งที่พวกเขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตกาสักตัว กาตัวนั้นจะส่งเสียงร้องขู่เป็นการส่งสัญญาณให้เพื่อนนกการุมเข้ามาโจมตีผู้บุกรุกด้วยการบินดิ่งลงมาไล่จิก 
และยิ่งเหตุการณ์แบบนี้ผ่านไปหลายๆ ครั้ง จำนวนนกกาที่เข้ามาโจมตีพวกเขาก็มีแต่จะเยอะขึ้นๆ

พวกเขาสงสัยว่ากาตัวอื่นๆ แยกแยะได้อย่างไรว่าใครคือผู้บุกรุกและต้องเข้าโจมตี 
ดังนั้นจึงเริ่มต้นทดลองโดยการวางกับดักจับกาในสถานที่ต่างๆ กัน 5 จุดใกล้เมืองซีแอตเติล

แล้วพวกเขาก็ใส่หน้ากากไปยืนเสนอหน้าให้กาดู จากนั้นก็ทำเครื่องหมายและปล่อยกาไป พวกเขาทำเช่นนี้กับกาประมาณ 7-15 ตัวในแต่ละจุด

หลังจากทำพิธีฝังแค้นให้กาแล้ว พวกเขาก็เอาหน้ากากเหล่านั้นเก็บไว้ในลิ้นชัก รอจเวลาผ่านไปหลายปี พวกเขาก็เอาหน้ากากอันเดิมมาใส่เดินไปตามจุดที่เคยทำกับดักอีก

ผลปรากฏว่ากาในละแวกนั้นพุ่งโจมตีคนที่ใส่หน้ากากในทันทีที่มันเห็น แถมยังส่งเสียงร้องปลุกระดมเรียกเหล่าพี่น้องกามารุมอีก บางครั้ง "ม็อบกา" อาจจะรวมพลกันได้มากถึง 50 ตัว แต่น่าแปลกว่า ถ้าให้คนเดียวกันใส่หน้ากากอันอื่นที่กาไม่เคยเห็นมาก่อน พวกมันกลับจำไม่ได้ และไม่กรูเข้ามาไล่จิกแต่อย่างใด

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าแกนนำม็อบจะต้องเป็นนกกาตัวที่มีหนื้แค้นกับพวกเขา แต่พอดู

ให้ละเอียดก็พบว่าม็อบเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีกาคู่กรณีนำมา บางทีกาในม็อบก็ไม่มีตัว

ไหนเคยมีประสบการณ์ตรงกับพวกเขามาก่อนเลย มีบางตัวเป็นญาติกับกาคู่กรณี แต่บาง

ตัวก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร แถมบางครั้งจุดที่พวกเขาโดนม็อบโจมตีก็ห่างจากจุดที่เคยวาง

กับดักเป็นไมล์ๆ

นอกจากนี้พวกเขายังทดสอบกับลูกนกกาที่ยังอยู่ในรังด้วย ผลปรากฏว่าลูกนกก็ส่งเสียง

ร้องขู่คนที่ใส่หน้ากากเจ้าปัญหา แต่ไม่มีปฏิกิริยากับหน้ากากอันอื่นๆ เช่นกัน


เพราะฉะนั้นแล้วผลการทดลองนี้จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า "อีกาจดจำใบหน้าของ

คนที่ทำมันเจ็บแค้นได้และกระจายความแค้นของมันไปยังหมู่เพื่อนฝูงญาติพี่น้อง

และลูกหลานด้วย" พวกเขาพบว่ากาสามารถจดจำใบหน้าได้นานถึง 5 ปีเป็นอย่างต่ำ

(เวลา 5 ปี คือระยะนานสุดที่พวกเขาทำการทดลองนี้)
 จอมณรงธร (ตี๋)
ประธานชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2555-56
กลุ่ม "รวมบาป"
8 มีนาคม 2013  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น