วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

แนะนำภาพยนตร์ภาษาฝรั่งเศส

ข้อมูลโดย Wikipedia , creativemove.com 
kapook.com และ sfcinemacity.com

 La Vénus à la fourrure
(ลา เวนุส ซา ลา ฟูร์เครอ - วีนัสในเสื้อขนสัตว์)



     ภาพยนตร์ฝรั่งเศส ฉายปี 2014 ภาพยนตร์แนว Comedy - Erotic สำหรับผู้พิสมัยการถูกทรมานหัวใจจากฝีมือผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ Rajmund Polański (โรมัน โปลันสกี้) ชาวโปแลนด์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของเขาในรอบ 10 ปี 

      และเมื่อครั้งที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายในสายประกวดหลักของทศกาลภาพยนตร์ เมืองกาน (Cannes) ประเทศฝรั่งเศส ในปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้เสียงปรบมือดังกึกก้องยาวนานเกินกว่า 5 นาที โดยเฉพาะการแสดงของ Emmanuelle Seigner (เอมมานูเอลล์ เซนเยร์) ภรรยาคนสวยของ โรมัน โปลันสกี้ ที่รับบท Wanda (วองดา) สาวสวยลึกลับผู้ปรากฏตัวขึ้นในคืนฝนพรำเพื่อมาทดสอบบทนางเอกละครเวที เรื่อง La Vénus à la fourrure (ลา เวนุส ซา ลา ฟูร์เครอ) และด้วยแรงดึงดูดที่เซ็กซี่ยั่วยวนของเธอ ได้ทำให้ Thomas (โทมาส์) ผู้กำกับถลำไปไกลกับการออดิชั่นบทที่แสนยาวนานคืนนั้น

 La belle et la bête 
(ลาเบล เล ลา แบต : โฉมงามกับเจ้าชายอสูร)    

 

     ภาพยนตร์จากประเทศฝรั่งเศส ฉายปี 2014 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับพ่อค้ารายหนึ่งที่สิ้นเนื้อประดาตัว จึงตัดสินใจเดินทางมาใช้ชีวิตยังชนบทพร้อมกับลูก ๆ อีก 6 คน รวมถึงลูกสาวคนสุดท้องผู้งดงาม เปี่ยมไปด้วยความสุข และความมีชีวิตชีวา แต่ในระหว่างการเดินทางอันยากลำบากนั้น ครอบครัวของพวกเขาก็พบกับปัญหาอีกครั้ง เมื่ออสูรได้ตัดสินโทษตายให้แก่หัวหน้าครอบครัวนี้ ที่เข้ามาขโมยดอกกุหลาบในเขตของตน


      เพื่อช่วยชีวิตพ่อ โฉมงามได้ยอมสละตัวเองให้แก่อสูรร้าย ทว่าสิ่งที่รอเธออยู่ในปราสาทของอสูรนั้นกลับไม่ใช่ความตาย แต่เป็นชีวิตอันแปลกประหลาดที่ปะปนด้วยความสุข และความเศร้าโศก ในทุก ๆ คืน โฉมงามกับอสูรจะร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำด้วยกัน ทั้งคู่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนกระทั่งโฉมงามเริ่มที่จะตามหาสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอสูรร้ายและ อาณาเขตของเขา
ในยามค่ำคืน อดีตของอสูรค่อย ๆ ถูกเปิดเผยในความฝันของโฉมงาม จนเธอได้ทราบในที่สุดว่าอสูรที่โดดเดี่ยวและน่ากลัวผู้นี้ แท้จริงแล้วครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้าชายผู้งามสง่า และด้วยความกล้าหาญของโฉมงามที่เลือกจะเมินเฉยต่ออันตรายทั้งหลาย เธอยอมเปิดใจตัวเองและช่วยปลดปล่อยอสูรจากคำสาป ซึ่งทำให้เธอได้พบกับรักแท้ในที่สุด

Les adieux à la reine 
(เล ซาดีเยอ ซา ลา เครน = ลาก่อน ราชินี)

 
     
     หนังฉายในปี 2012 เนื้อเรื่องกล่าวถึงพระราชวัง Versailles (แวร์ซาย) ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนกรกฎาคม ปี 1789 ความไม่สงบภายในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) ขยายไปทั่ว ประชาชนแข็งข้อ ประเทศอยู่ในภาวะจวนเจียนปฏิวัติ ผู้คนที่อยู่เบื้องหลังราชสำนักต่างวางแผนฉุกเฉิน ไม่มีใครเชื่อว่าระเบียบแบบแผนที่มีมายาวนานจะต้องถึงจุดจบ 


     ขณะที่ทุกคนต่างพูดถึงการหนีรวมทั้งพระนาง Marie-Antoinette (มาครี อองตัวเนต) และบรรดานางข้าหลวง Sidonie Laborde (ซีโดนี ลาบอร์ด) หนึ่งในนางสนมของมาครี อองตัวเนต ซึ่งมีหน้าที่คอยอ่านหนังสือให้พระนาง เป็นสมาชิกของพระราชวงศ์ชั้นสูง ด้วยความที่ มาครี อองตัวเนตกลัวว่าแผนการหนีจะประสบความล้มเหลว พระนางจึงได้บัญชาให้ซีโดนีแต่งกายเป็นพระนางนั่งไปบนรถม้า ขณะที่พระนางมาครี อองตัวเนต หนีไปจากพระราชวังอย่างเงียบๆในตอนกลางคืน ในตอนแรกซีโดนีภูมิใจมากที่ได้รับเกียรตินี้ แต่ในไม่ช้า เธอก็เริ่มคิดได้ว่าการที่พระนางบัญชามาเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าพระนางนั้นรับรู้ถึงความรักที่ซีโดนีมีต่อพระนาง

Ernest et Célestine 
(เอร์เนส และ เซเลสตีน)


    
       ภาพยนตร์จากความร่วมมือของประเทศฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม เมื่อหมี Ernest (เอร์เนส) ที่ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ ทำกิจการร้านขนมหวานที่ทำให้คนอื่นต้องฝันผุ และมุ่งแต่ทำผลประโยชน์ให้ตัวเอง เกิดเหตุจับผลัดจับผลูมาเป็นเพื่อนกับ หนู Célestine (เซเลสตีน) ผู้เป็นชนชั้นล่างที่อาศัยในท่อระบายน้ำและเติบโตมาอย่างเด็กกำพร้า ถูกสอนว่าหมีดุร้ายน่ากลัว และโลกภายนอกมีแต่อันตราย หนูเหล่านี้เก็บฟันของหมีที่หลุดแล้วเพื่อนำมาใช้ แต่ในตอนท้ายนั้น ทั้งหมีและหนูก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน และทำให้ความแตกต่างของทั้งสองชนชั้นมลายหายไป เพราะหนูเปลี่ยนความวุ่นวายให้กลายเป็นมิตรภาพและคนรอบตัวยอมรับ


     Ernest et Célestine คือเรื่องราวจากหนังสือการ์ตูนคลาสสิคโด่งดังตั้งแต่ปี 1980 ของ Gabrielle Vincent (กาบริแยล แวงซอง) ชาวเบลเยี่ยม ที่ถูกนำมาทำเป็นอนิเมชั่นโดยชาวฝรั่งเศส Benjamin Renner (บองชาแมง รองเนร์) , Vincent Patar (แวงซอง ปาตาร์) และ Stephane Aubier (สเตฟาน โอบิเยร์) ซึ่งจะทำให้คุณได้มุมมองชีวิต คิดเปลี่ยน และก้าวเดินออกจากกฎเกณฑ์และอุปสรรคเดิมๆ ที่กีดกันและกักขังคุณจนฝังใจ แล้วทำมันเสียใหม่เพียงแค่เชื่อมั่นและเริ่มต้นเดี๋ยวนี้ นี่คือการ์ตูนอนิเมชั่นที่เปิดตัวในเทศกาลหนังเมืองกาน (Cannes) ประเทศฝรั่งเศส และฉายอย่างเป็นทางการในเทศกาลหนัง Toronto International Film Festival (TIFF) ประเทศแคนาดา ในปี 2012

 L'amour fou
 (ลามูร์ โฟ - ความรักอันบ้าคลั่ง)


      ฉายเมื่อปี 2010 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Yves Saint Laurent (อีฟส์ แซงต์ โรลองต์ 1936-2008) เจ้าของแบรนด์แฟชั่นของฝรั่งเศสชื่อดัง YSL

      Pierre Bergé (ปิแอร์ แบร์เช่) คนรักของเขา จึงให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตคู่ในอดีตของพวกเขา นับตั้งแต่วันที่พวกเขาเจอกันเมื่อตอนที่แซงต์ โรลองต์ อายุ 21 ปี ซึ่งในตอนนั้น เขาเป็นครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ ที่ Christian Dior (กริสตียอง ดิออร์) ภายหลังจากที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้เสียชีวิต โดยเขาได้เปิดเผยถึงคอลเล็คชั่นใหม่ โรคซึมเศร้า และการใช้ยาเสพติดของแซงต์ โรลองต์ การเลิกยา และการเกษียณตัวเอง 

 

      เรื่องราวจบลงด้วยการเก็บงานศิลปะที่แซงต์ โรลองต์ สะสมไว้เพื่อนำไปประมูล โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ภาพถ่ายและฟุตเตจรวมทั้งการสัมภาษณ์เพื่อนของทั้งคู่มาประกอบการสัมภาษณ์ แบร์เช่ด้วย
Les amours imaginaires
  (เล ซามูร์ ซิมาชีแนร์ - ความรักที่เพ้อฝัน)

 

      เป็นภาพยนตร์จากประเทศแคนาดา (พูดภาษาฝรั่งเศส) ฉายปี 2010 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ 2 คนเพื่อนรัก ต้องมาแย่งผู้ชายคนเดียวกัน โดย Marie (มาครี) เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่เมือง Montréal (มงเตรอัล) เธอมักผิดหวังกับเรื่องผู้ชายอยู่เสมอ ขณะที่ Francis (ฟรองซีส์) เพื่อนสนิทของเธอเป็นเกย์ที่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จด้านความรักเท่าไหร่นัก 


      เมื่อมาครีได้พบกับ Nicolas (นิโกลาส์) ชายหนุ่มหน้าตาดีซึ่งเพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้ เธอก็หลงรักเขาทันทีและใช้ความเป็นผู้หญิงในการยั่วยวนเขา แต่ฟรองซีร์เองก็หลงรักนิโกลาส์เช่นกัน เมื่อนิโกลาส์ยังไม่ได้เปิดเผยว่าความจริงเขาชอบแบบไหนกันแน่ มาครีกับฟรองซีร์จึงมั่นใจว่าตัวเองอาจเป็นผู้ชนะ สองเพื่อนรักจึงเริ่มทำอะไรมากขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากนิโกลาส์ และการแย่งผู้ชายในครั้งนี้จะทำลายมิตรภาพที่ทั้งสองคนเคยมี

  Coco Chanel et Igor Stravinsky 
(โกโก้ ชาแนล และ อีกอร์ สตราวินสกี้)

 
  
     ฉายเมื่อปี 2009 เรื่องย่อเกี่ยวกับกรุง Paris (ปาครี) ปี 1913 ที่ Theatre Des Champs-Elysées (เตอาเตรอ เด ชอง เซลิเซ) อิกอร์ สตราวินสกี้ ได้แสดงบัลเลต์เรื่อง Le Sacre du printemps (เลอ ซาเกรอ ดู ปรังตองส์ - พิธีการแห่งฤดูใบไม้ผลิ) รอบปฐมทัศน์ โกโก้ ชาแนลได้ร่วมชมการแสดงในครั้งนั้น และรู้สึกประทับใจอย่างมาก แต่งานชิ้นนั้นล้ำสมัยเกินไปจนทำให้ถูกผู้ชมโห่ และเกือบเกิดเป็นการจลาจล



     สตราวินสกี้เสียกำลังใจอย่างมาก 7 ปีให้หลัง โกโก้ ชาแนล กลายเป็นดีไซน์เนอร์ผู้ร่ำรวย และมีชื่อเสียง เธอได้พบกับสตราวินสกี้อีกครั้ง ซึ่งในช่วงหลังการปฏิวัติรัสเซีย เขาต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ในกรุงปาครี ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว โกโก้ให้สตราวินสกี้ใช้วิลล่าของเธอที่เมือง Garches (การ์ชส์) เพื่อให้เขาใช้ทำงาน เขาย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่นทันที พร้อมกับลูกๆและภรรยาที่ป่วยเป็นวัณโรค และแล้ว ความรักซ่อนเร้นของทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้น

 Rejoignez le groupes de facebook "Le Club des Langues occidentales de Université Ramkhamhaeng" à https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

สมัครเข้ากลุ่มเฟส "ชมรมภาษาตะวันตกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/365756166805480/

 จอมณรงธร (ตี๋)
กรรมการชมรมภาษาตะวันตก
ปีการศึกษา 2556-57
กลุ่ม "Fanclub FS"
21 มีนาคม 2014

2 ความคิดเห็น:

  1. อยากดูทุกเรื่องเลยจะหาดูได้จากเว็บไหนค่ะ

    ตอบลบ
  2. ถ้าเป็นแปลไทย คงยากครับ ยกเว้นหนังที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทย

    ตอบลบ